ลูกแมวกินอาหารเปียกได้ตอนไหน

ลูกแมวกินอาหารเปียกได้ตอนไหน

เมื่อลูกแมวของคุณเติบโตขึ้น ลูกแมวจะต้องการอาหารและมีวิธีการกินอาหารที่แตกต่างจากเดิม ดูข้อมูลเพิ่มได้ในบทความของเราเกี่ยวกับการให้อาหารลูกแมวในแต่ละช่วงวัยของชีวิต เทคนิคให้อาหารแมวและลูกแมวที่ทุกคนควรรู้ ทราบไหม ว่าน้องแมวแต่ละตัวนั้น มีนิสัยการกินที่แตกต่างกัน บางตัวอาจจะทานง่าย กินทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่น้องแมวบางตัวก็อาจจะเลือกกินแบบสุดๆ เอาใจยากเสียเหลือเกิน ซึ่งพฤติกรรมการกินของน้องแมวส่วนใหญ่นั้นมักจะควบคุมไม่ได้ เพราะเกิดจากสัญชาติญาณที่ติดตัวเค้ามาตั้งแต่เกิด แต่ถ้าเราให้เวลากับน้องแมวมากพอ รวมถึงลองใช้เทคนิคสำหรับเลี้ยงแมวตามนี้ ไม่ว่าใครก็จะกลายเป็นคนรักที่แสนรู้ใจของน้อง และดูแลเค้าให้มีสุขภาพดีได้ไม่ยากเลย ใช้ภาชนะแบบไหนดีนะ? เชื่อว่าหลายคนก็คงไม่เคยรู้มาก่อน ว่าสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจในการเลือกชามอาหารให้กับน้องแมวก็คือ ความกว้างและความลึกของชาม โดยจะต้องไม่ทำให้ “หนวด” ของเค้าเลอะเทอะระหว่างที่กำลังทานนั่นเอง โดยมีเทคนิคง่ายๆดังนี้ – ควรเลือกชามอาหารที่มีความลึกพอสำหรับใส่อาหารทั้งวันของน้องแมว – ชามอาหารที่ใช้ควรมีความกว้างเพียงพอที่หนวดของน้องแมวจะไม่สัมผัสกับขอบชาม รวมถึงควรเลือกชามที่มีระดับความสูงพอเหมาะ เพื่อให้เค้าเคี้ยวอาหารได้โดยไม่เลอะเทอะหนวด – ถ้าใครที่มีน้องแมวชอบทานมูมมาม แนะนำให้ปูแผ่นรองกันเปื้อนเอาไว้ใต้จานกันเลอะจะช่วยได้มากเลยล่ะ เรียนรู้ลูกแมวกินอาหารได้ตอนไหนและวิธีให้อาหารเปียกลูกแมว เจ้าของควรเรียนรู้วิธีให้อาหารลูกแมวและศึกษาว่าลูกแมวกินอาหารได้ตอนไหนบ้าง เจ้าเหมียวของคุณต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุลในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้เค้ามีสุขภาพดีและอายุยืน เคล็ดลับการให้อาหารลูกแมวสำหรับเจ้าของมือใหม่ ได้แก่ เลือกสูตรอาหารสำหรับลูกแมว ให้เค้ากินครั้งละน้อย ๆ แต่ให้ตลอดทั้งวัน รวมถึงให้เค้าได้ลองรสชาติและรสสัมผัสหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เค้าเติบโตแข็งแรงและฝึกสัญชาตญาณได้อย่างเต็มที่ อาหารแมว อุดมด้วยสารอาหารครบถ้วนและสมดุล เพื่อสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีของเจ้าตัวน้อย คู่มือให้อาหารลูกแมว เมื่อลูกแมวเติบโตขึ้น รูปแบบและความต้องการด้านสารอาหารของเค้าย่อมเปลี่ยนไป คุณคงมีคำถามในใจว่า แล้วลูกแมวกินอาหารได้ตอนไหนบ้าง เราจึงทำคำแนะนำในการให้อาหารลูกแมวเพื่อให้คุณได้ใช้เป็นแนวทาง  […]

เลี้ยงแมวยังไงให้อยู่กับเราไปนานๆ

เลี้ยงแมว

พอแมวใช้ชีวิตอยู่กับเรา ตั้งแต่วันที่เป็นลูกแมวจนมาถึงแมววัยกลางคน ความผูกพันก่อตัวอย่างไม่มีทีท่าจะจางลง มีแต่จะเข้มข้นขึ้นทุกวัน เพราะเข้าใจกันมากขึ้น ฟังกันรู้เรื่องมากขึ้น ระยะห่างของความเป็นแมวกับความเป็นคนน้อยลงเรื่อยๆ แต่ทุกสิ่งมีชีวิตต่างมีอายุขัยของตัวเอง แมวก็เช่นกัน อายุเฉลี่ยของแมว อายุเฉลี่ยของแมวแต่ละตัวมีปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องของสายพันธุ์ สาเหตุการเจ็บป่วย และที่อยู่อาศัยของแมว แต่อายุขัยโดยเฉลี่ยของแมวจะอยู่ระหว่าง 15-17 ปี แม้ว่าในความเป็นจริง แมวบางตัวอาจอยู่ไปไม่ถึงขั้นนั้นด้วยเหตุผลนานัปการ แต่ในเวลาเดียวกันก็มีแมวบางตัวมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณภาพแม้จะเลยปีที่ 20 ไปแล้วก็ตาม เลี้ยงแมวอย่างไรให้อายุยืน รู้หรือไม่ว่าหากเราดูแลแมวของเราให้มีสุขภาพที่ดี น้องแมวก็มีโอกาสที่จะเป็นแมวอายุยืนถึง 20 ปีได้เลย หัวใจสำคัญในการเลี้ยงแมวให้มีอายุยืนยาวก็ไม่ต้องใช้เคล็ดลับอะไรให้วุ่นวาย เพียงแต่หมั่นดูแลเอาใจใส่ในการดูแลสุขภาพ อาหารการกินของน้องแมว และพาไปพบคุณหมอเพื่อตรวจเช็คสุขภาพตามที่คุณหมอนัดหมายอย่างต่อเนื่องเท่านั้นเอง แต่เล่าแค่นี้อาจจะยังไม่จุใจ มาติดตามอ่านแล้วไปดูแลแมวให้เป็นแมวอายุยืนไปพร้อมๆ กันด้วยเคล็ด(ไม่)ลับในการเลี้ยงแมวนี้กันดีกว่า 1. เลือกอาหารการกิน กุญแจสำคัญสำหรับการมีสุขภาพดีของน้องแมวนั้นก็ไม่ต่างจากคน การเลือกอาหารที่มีคุณภาพดีมีสารอาหารครบถ้วนล้วนส่งผลต่อสุขภาพของน้องแมวแสนรักของเราทั้งสิ้น ดังนั้นการเลือกอาหารให้น้องแมวจึงเป็นสิ่งสำคัญ แนะนำให้เลือกอาหารแมวเกรดซุปเปอร์พรีเมี่ยม ที่ได้รับการคิดค้นสูตรอาหารจากทีมสัตวแพทย์ และนักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญ คัดสรรจากวัตถุดิบคุณภาพสูง อย่าง Purina ONE ที่นอกจากจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความอร่อยถูกปาก และอัดแน่นด้วยสารอาหารจำเป็นครบถ้วนสำหรับน้องแมวแล้ว ยังช่วยดูแลแมวให้มีสุขภาพที่ดี ชะลอความเสื่อมของร่างกาย และมีอายุยืนยาวได้อีกด้วย 2. ดูแลรูปร่าง เลี้ยงแมวทั้งที […]

5 อย่างที่ไม่ควรทำกับพันธุ์สุนัขไทย

พันธุ์สุนัขไทย

สุนัขสายพันธุ์ไทยที่เรารู้จักกันดีคงหนีไม่พ้นสุนัขพันธุ์หลังอานและสุนัขพันธุ์บางแก้ว ซึ่งสุนัขสายพันธุ์ไทยส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่ยังมีความไม่มั่นคงทางจิตใจเท่าไหร่นัก ทำให้ฝึกค่อนข้างยาก วันนี้จึงเอาเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ไทยมาฝากกัน ใครอยากเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ไทย หรือ ใครที่เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ไทยอยู่ พันธุ์สุนัขในไทยที่นิยมมีอะไรบ้าง 1.พันธุ์ไทยหลังอาน สุนัขไทยหลังอาน ( Thai Ridgeback Dog ) เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกในชื่อ “หมาไทย” ( Mah Thai ) โดยปัจจุบันหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา มีการติดต่อสั่งซื้อไปเพาะเลี้ยงกัน จนถึงขั้นมีการจดทะเบียนสมาคมสุนัขไทยหลังอานในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย ภายใต้ชื่อ Thai Ridgeback Club of The United State (TRCUS) American Thai Ridgeback Association (ATRA) ถิ่นกำเนิด มีการวิเคราะห์และศึกษาจากผู้รู้ว่า หมาพันธุ์ไทยหลังอานน่าจะอยู่ในกลุ่ม Wolf , Fox, Jackal, Coyote เป็นสุนัขพันธุ์พื้นเมืองที่อยู่ในย่านเอเชียตะวันออก พื้นที่เขตร้อน ซึ่งสุนัขพื้นเมืองในเขตนี้จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน เช่น […]

7 วิธีตัดเล็บสุนัข สามารถทำตามได้ง่ายๆ

วิธีตัดเล็บสุนัข

การตัดเล็บเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยดูแลเล็บของสุนัขให้สั้นและสุขภาพดี แล้วยังช่วยปกป้องพื้นและเฟอร์นิเจอร์ของคุณจากรอยขีดข่วนอีกด้วย เล็บที่ยาวเกินอาจหักและทำให้เลือดออก หรืออาจจะยาวจนโค้งงอทิ่มอุ้งเท้าจนสุนัขเจ็บได้ นอกจากนี้มันยังจะทำให้สุนัขเดินกะโผลกกะเผลกเพราะเล็บยาวจนไปขัดขวางการเดิน ตัดเล็บให้สุนัข 1. ใช้กรรไกรตัดเล็บสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ กรรไกรตัดเล็บที่เราใช้กันทั่วไปถูกออกแบบมาสำหรับตัดพื้นผิวที่แบนราบ แต่เล็บของสุนัขมีลักษณะโค้งงอเป็นรูปถ้วย หากใช้กรรไกรตัดเล็บของคน อาจจะทำให้สุนัขเจ็บหรือเป็นแผลได้ ที่ตัดเล็บสำหรับสุนัขมีหลายแบบ แบบที่เห็นได้ทั่วไปจะเป็นทรงแบบกิโยตีน  (เป็นรูปตัว U) หรือแบบกรรไกร คุณสามารถเลือกใช้แบบใดก็ได้ตามความชอบ 2. หาตำแหน่งเนื้อใต้เล็บของสุนัข เนื้อส่วนที่อยู่ใต้เล็บนั้นเต็มไปด้วยเส้นเลือดและเส้นประสาทมากมาย หากตัดโดนเข้า สุนัขอาจจะเจ็บมากและทำให้เลือดออกได้ ตามหลักการแล้ว ควรตัดให้เว้นระยะจากเนื้อประมาณ 2-4 มิลลิเมตร 3. จับสุนัขไว้ให้ดี ถ้าสุนัขของคุณกำลังผ่อนคลายหรือชินกับการถูกจับเท้าแล้ว ให้เขานอนลงเพื่อตัดเล็บได้เลย แต่ถ้าสุนัขดิ้นไปมา ให้คุณค่อยๆ รั้งตัวเขาไว้ให้นอนลงโดยใช้ศอกและแขนจับอุ้งเท้า 4. เริ่มจากขาหลังก่อน เล็บเท้าที่ขาหลังมักจะสั้นกว่าและตัดง่ายกว่าเท้าข้างหน้า และเวลาถูกจับขาหลัง สุนัขจะนิ่งกว่าเวลาถูกจับขาหน้าด้วย ดังนั้นให้เริ่มตัดเล็บจากขาหลังก่อน 5. ห้ามเลือดทันทีเมื่อตัดเข้าเนื้อ หากตัดถูกเนื้อใต้เล็บมักจะมีเลือดออกมาก สุนัขอาจจะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หรืออาจงับคุณได้ ถ้าคุณเผลอตัดโดนเนื้อสุนัขจนเลือดออก ให้ใช้กระดาษทิชชู่ซับไว้สักครู่ ถ้าเลือดยังไม่หยุดไหล ให้ทาแป้งข้าวโพดหรือยาห้ามเลือดแบบผงหรือแท่งลงบนแผล อาจจะเอานิ้วสุนัขจุ่มลงไปในผงหรือใช้นิ้วคุณทาให้ก็ได้ 6. ชมสุนัขบ่อยๆ การชมหรือให้ขนมเล็กๆ น้อยๆ เป็นแรงจูงใจที่ดีในการทำให้สุนัขอยู่นิ่ง […]

ฮีทสโตรกในสุนัข ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

ฮีทสโตรกในสุนัข

อากาศในประเทศไทยไม่ว่าฤดูกาลไหน ปฎิเสธไม่ได้ว่ามักเจออากาศร้อนอบอ้าว ซึ่งโรคยอดฮิตที่คนพาสัตว์เลี้ยงมารักษากันเยอะมากก็คือ “โรคฮีทสโตรก” (Heat Stroke) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “โรคลมแดด” ยิ่งอยู่ในประเทศไทยที่แดดแรงจนตาจะทะลุด้วยเนี่ย ขนาดคนอย่างเรายังร้อนแทบจะทนไม่ไหวต้องหาอะไรมาช่วยคลายร้อน สัตว์เลี้ยงของเราก็ร้อนได้เหมือนกันเพียงแต่เขาบ่นไม่ได้ ฮีทสโตรกในสุนัข โรคลมแดด (Heat Stroke) คืออะไร? “โรคลมแดด” หรือ “ฮีทสโตรก” (Heat Stroke) ในสัตว์เลี้ยง เป็นภาวะที่ร่างกายของสัตว์ไม่สามารถระบายความร้อนออกมาได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงกว่าปกติ คือ สูงกว่า 41 องศาเซลเซียส ความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลเสียต่อการทำงานของอวัยวะภายในต่าง ๆ แถมโรคนี้ยังเกิดขึ้นได้กับสัตว์เลี้ยงทุกชนิดโดยเฉพาะน้องหมา น้องแมว เพราะปกติสุนัขและแมวจะมีต่อมเหงื่อบริเวณฝ่าเท้าและจมูกเท่านั้น การระบายความร้อนจึงต้องอาศัยการหายใจและการหอบเป็นหลัก หากร่างกายของพวกเขาไม่สามารถระบายความร้อนได้ทันก็จะเกิดภาวะฮีทสโตรกขึ้น อาการฮีทสโตรกสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายและพบได้บ่อยในสุนัขมากกว่าแมว โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ที่ขนยาว ขนหนา และพันธุ์หน้าสั้น แถมอาการนี้ยังเกิดขึ้นได้ง่ายเพราะมีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมภายนอกที่ส่งผล คือ สภาพอากาศร้อนชื้น การอยู่ในพื้นที่อบอ้าวอากาศถ่ายเทไม่ดี เมื่อร่างกายของสัตว์ได้รับความร้อนมากเกินไปจะทำให้เขาเกิดความเครียด ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่หมุนเวียนในร่างกายลดลงจนความดันเลือดต่ำ หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้น้อยลง การระบายความร้อนที่ต้องอาศัยเลือดเป็นสื่อกลางเกิดความบกพร่อง ความร้อนจึงสะสมอยู่ในร่างกายจนก่อให้เกิดภาวะฮีทสโตรก (Heat Stroke) ตามมา ไม่ว่าจะเป็นน้องหมา น้องแมว กระต่าย หรือสัตว์ต่าง […]

9 ขั้นตอนอาบน้ำหมายังไงให้ปลอดภัย

อาบน้ำหมา

น้องหมาขนฟู นุ่ม เต็ม ไม่มีปัญหาขนร่วง สะอาดสะอ้านน่ากอดน่าอุ้ม ถือเป็นสุดยอดความปรารถนาของคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนเลยทีเดียว ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจาก การอาบน้ำทำความสะอาดที่ถูกวิธี ควรอาบน้ำสุนัขเมื่อไหร่ โดยธรรมชาติของสุนัขแต่ละตัวจะมีกลิ่นเฉพาะซึ่งถูกสร้างขึ้นตามธรรมชาติ โดยกลิ่นนี้จะถูกขับมาออกในบางบริเวณ เช่น อุ้งเท้า ซึ่งเป็นที่อยู่ของต่อมสร้างกลิ่น (Apocrine Gland) สามารถสร้างสารฟีโรโมน (Pheromones) และสารเคมีที่ใช้สื่อสารกับสุนัขตัวอื่น ซึ่งก็คือกลิ่นตัวของสุนัขแต่ละตัวนั่นเองนอกจากนี้ยังมีน้ำมันที่คอยหล่อเลี้ยงตามขน ทำให้ขนเป็นมันเงางามและนุ่มลื่น ดังนั้นหากเราอาบน้ำสุนัขบ่อยเกินไป จะส่งผลให้น้ำมันและกลิ่นเฉพาะตัวของสุนัขหายไป และมีส่วนทำให้การต้านทานเชื้อโรคลดลงไปด้วย ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่า หลังจากอาบน้ำให้สุนัขแล้ว สุนัขจะชอบไปนอนเกลือกกลิ้งตามพื้นหญ้าพื้นดินเพื่อให้กลิ่นเฉพาะตัวตามธรรมชาติของมันกลับมาเหมือนเดิม การเตรียมตัวก่อนอาบน้ำสุนัข อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า โดยธรรมชาติสุนัขไม่ได้อาบน้ำเป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้นการอาบน้ำสุนัขจึงต้องมีการเตรียมตัวและอุปกรณ์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้ ขั้นตอนการอาบน้ำสุนัข การอาบน้ำสุนัข ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก มีขั้นตอนดังนี้ อาบน้ำสุนัขตอนอายุเท่าไร สุนัขที่เริ่มอาบน้ำได้ ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 2 เดือน เพราะสุนัขที่อายุน้อยกว่า 2 เดือนร่างกายยังไม่แข็งแรงและภูมิต้านทานโรคยังน้อยมาก จะทำให้สุนัขป่วยง่าย ควรอาบน้ำสุนัขบ่อยแค่ไหน โดยทั่วไปเราควรอาบน้ำสุนัขเดือนละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เพราะการอาบน้ำบ่อยเกินไปอาจทำให้สภาพผิวหนังและขนเปลี่ยนแปลงไป หรือเกิดปัญหาผิวหนังและขนแห้งหยาบ […]

ไอเทมที่ช่วยเจ้าหมาได้ในหน้าฝน

หมา

เสื้อกันฝนเป็นตัวช่วยที่ไม่เพียงแต่ทำให้น้องหมาตัวแห้งเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเค้ารู้สึกสบายมากขึ้นเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน รองเท้ากันฝนสำหรับน้องหมา มักทำจากยางที่มีความยืดหยุ่น มีปุ่มสัมผัสกันลื่น ควรสวมใส่ในเฉพาะเวลาที่ต้องเดินเหยียบน้ำ โคลน หรือลุยฝนเท่านั้น   เสื้อกันฝน เสื้อกันฝนเป็นตัวช่วยที่ไม่เพียงแต่ทำให้น้องหมาตัวแห้งเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเค้ารู้สึกสบายมากขึ้นเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน แถมยังช่วยป้องกันหยดน้ำฝนไม่ให้เปียกตัวน้องหมาจนเกิดความอับชื้น พร้อมยังช่วยลดแรงในการเช็ดน้ำฝนออกของเราได้อีกด้วย สำหรับเสื้อกันฝนสำหรับสุนัขมีหลายประเภท บางตัวมีหมวก สามารถคลุมศีรษะของน้องหมาไม่ให้เปียกฝน บางตัวออกแบบให้มีแขนยาว ทำให้ป้องกันไม่ให้ขนบริเวณช่วงขาของน้องหมาเปียกน้ำฝน รวมถึงเสื้อกันฝนสำหรับน้องหมาบางชนิดยังถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาพอที่จะพกพาได้ง่าย ซึ่งเป็นประโยชน์ถ้าหากต้องออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ แล้วเกิดฝนตกขึ้นกระทันหันก็หยิบออกมาใช้งานได้สะดวก   รองเท้ากันฝน ปกติแล้วเราจะเห็นรองเท้าสำหรับน้องหมาที่ใช้สำหรับใส่เดิน ป้องกันฝุ่นดิน สิ่งสกปรกจากพื้นทั่ว ๆ ไป แต่ในช่วงหน้าฝน ไอเทมชิ้นนึงที่ขาดไม่ได้เลยก็คือรองเท้ากันฝนสำหรับน้องหมา ซึ่งรองเท้ากันฝนสำหรับน้องหมานี้ส่วนมากแล้วจะทำมาจากยางที่มีความยืดหยุ่น มีปุ่มสัมผัสกันลื่น สวมใส่สบาย และสวมใส่ในเฉพาะเวลาที่น้องหมาต้องเดินเหยียบน้ำ โคลน หรือลุยฝนเท่านั้น เพราะรองเท้ากันฝนของน้องหมาจะไม่มีรูระบายอากาศเหมือนกับรองเท้าทั่วไปสำหรับน้องหมานั่นเอง   ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ เมื่อน้องหมาตัวเปียกจากการสัมผัสน้ำฝน ตัวช่วยอีกตัวที่จะช่วยให้น้องหมาตัวแห้งรวดเร็วขึ้นก็คือ ผ้าขนหนูที่มีลักษณะดูดซับน้ำได้ดี (Quick-Dry Dog Towel) โดยหลังจากใช้ผ้าขนหนูซับน้ำฝนออกจากตัวน้องหมาจนหมาดแล้ว แนะนำว่า ให้ใช้ไดร์เป่าผมเป่าน้องหมาอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่า ผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาแห้งสนิท เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น ซึ่งอาจทำให้เชื้อรา และแบคทีเรียเจริญเติบโต ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังนะ […]

การปฐมพยาบาลให้น้องหมาเบื้องต้น

หมา

เหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้จะระมัดระวังเพียงใด แต่เหตุฉุกเฉินก็สามารถเกิดขึ้นกับน้องหมาของเราได้เสมอ ดังนั้นคงจะดีถ้าเรารู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับน้องหมาที่เรารัก ซึ่งการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องจะช่วยลดความเจ็บปวด และบรรเทาอาการเบื้องต้นไม่ให้รุนแรงมากขึ้นไปกว่าเดิมได้ก่อนที่จะได้พบกับสัตวแพทย์   First Aid วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพราะอุบัติเหตุคือสิ่งที่ไม่คาดฝันและเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ เหล่าคุณพ่อคุณแม่ของน้องหมาน้องแมวจึงต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมไว้ดูแลในวันที่น้องหมาน้องแมวต้องพบกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เรามารู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจพบได้กันดีกว่า   แนวทางการจัดการเหตุฉุกเฉินแบบต่างๆ เพราะอุบัติเหตุคือสิ่งที่ไม่คาดฝันและเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ เหล่าคุณพ่อคุณแม่ของน้องหมาน้องแมวจึงต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมไว้ดูแลในวันที่น้องหมาน้องแมวต้องพบกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เรามารู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจพบได้กันดีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินคือ “การตั้งสติ” เหล่าคุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาสถานการณ์อย่างรอบคอบ เพื่อแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า และลดความรุนแรงของอาการอย่างดีที่สุด ก่อนที่จะส่งตัวน้องหมาน้องแมวให้ถึงมือคุณหมอเพื่อรักษาในขั้นต่อไป   1. ผึ้งหรือตัวต่อต่อย แท้จริงแล้วเหล็กในผึ้งกับต่อไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะเหล็กในผึ้งมีฤทธิ์เป็นกรด จึงต้องล้างด้วยเบกกิ้งโซดาที่เป็นด่าง แต่ถ้าเป็นเหล็กในตัวต่อจะมีฤทธิ์เป็นด่าง ควรล้างด้วยน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู เพื่อให้ฤทธิ์ของเหล็กในอ่อนลงไป จากนั้นประคบเย็นบริเวณที่น้องหมาหรือน้องแมวโดนต่อย และทาคาลาไมน์หรือครีมกันแมลงกัดต่อย คอยสังเกตอาการต่อเนื่องว่าน้องหมาน้องแมวมีอาการบวมมากหรือหายใจลำบากหรือไม่ หากมีอาการดังกล่าวควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะน้องอาจจะแพ้เหล็กในผึ้งหรือต่ออย่างรุนแรงได้   2. มีแผลเลือดออก โดยทั่วไปถ้าแผลตื้นถือว่าไม่อันตรายมาก เพียงล้างแผลด้วยน้ำสะอาด หรือใช้น้ำเกลือล้างแผล และใช้ยาสำหรับใส่แผลสดทาบริเวณแผลแต่ถ้าน้องหมาหรือน้องแมวมีแผลลึกถึงหลอดเลือดแดงและมีเลือดออกมาก จะสังเกตได้จากเลือดที่ไหลออกมาจะมีสีแดงสด พุ่งแรง และหยุดยาก ให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือล้างแผล ก่อนจะใช้ผ้าก๊อซสะอาดกดปากแผลให้แน่นไว้เป็นเวลา […]

สัตว์เลี้ยงรับสารพิษจาก 6 ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านนี้ได้

สัตว์เลี้ยง

น้ำยาทำความสะอาดส่วนมากจะมีฤทธิ์ในการกัดกร่อน หากสัมผัส หรือกลืนกินจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงได้ในระยะยาว การใช้ผลิตภัณฑ์จึงต้องสวมใส่รองเท้า สวมถุงมือ ใส่หน้ากาก ขณะทำความสะอาด ระมัดระวังไม่ให้เด็กและสัตว์เลี้ยงเข้าใกล้ หรือสัมผัส 6 ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้านที่เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง   1. น้ำยาทำความสะอาดพื้น น้ำยาทำความสะอาดพื้น น้ำยาถูพื้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันแทบทุกบ้าน และแม้ว่า จะสามารถช่วยกำจัดสิ่งสกปรก สิ่งตกค้าง ๆ ให้ออกจากพื้นได้ แต่สารเคมีที่เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเหล่านี้ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ เช่น ทำให้คนเรารู้สึกเจ็บหน้าอก อ่อนเพลียบ่อย ๆ ปวดศีรษะ และระคายเคืองผิวหนัง และไอระเหยของสารเคมีอาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในบ้านได้ การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จึงต้องสวมใส่รองเท้า สวมถุงมือ ใส่หน้ากาก ขณะทำความสะอาด หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพของคนเราและสัตว์เลี้ยง ซึ่งในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยต่อทุกคนในครอบครัวเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง   2. น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาล้างห้องน้ำ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทุกบ้านต้องใช้กันอยู่เป็นประจำ เพื่อใช้ทำความสะอาดพื้นห้องน้ำ ขจัดคราบที่ฝังแน่นบนพื้น ซึ่งน้ำยาล้างห้องน้ำจะมีสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบสำคัญคือ กรดเกลือ (hydrochloric acid) โดยความเข้มข้นและปริมาณสารที่ก่อให้เกิดความเป็นพิษจะอยู่ที่ 8.5% w/v ขึ้นไป สามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยการสัมผัสผ่านทางผิวหนังโดยตรง ถ้าถูกผิวหนัง จะทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง […]

เมื่อแมวคุณตั้งท้องต้องให้อาหารอย่างไร

แมว

เมื่อสัตว์เลี้ยงตั้งท้อง ทั้งเจ้าของและสัตว์เลี้ยงย่อมดีใจปนวิตกกังวลว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อให้สุขภาพและร่างกายของแม่แมวพร้อมรับสมาชิกตัวใหม่ สิ่งหนึ่งที่เจ้าของสามารถช่วยแม่แมวได้คือการเสริมโภชนาการที่จำเป็นสำหรับแม่แมว สิ่งที่จะเกิดขึ้นระหว่างที่แมวของคุณตั้งครรภ์ การตั้งครรภ์ของแมวใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 65 วัน และอาจใช้เวลาตั้งแต่ 61-72 วัน ถ้าแบ่งการตั้งครรภ์เป็น 3 ระยะ ใน 2 ระยะแรก ร่างกายของแมวตั้งครรภ์จะมุ่งเน้นกับการเพิ่มไขมันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับลูกแมว ในระยะสุดท้ายของการตั้งครรภ์ น้ำหนักของแมวตั้งครรภ์จะเพิ่มขึ้นโดยตรงจากการเจริญเติบโตของลูกแมว วิธีที่ดีที่สุดสำหรับแม่แมวตั้งครรภ์ ในการรับสารอาหารและการเพิ่มน้ำหนักที่จำเป็นต่อการคลอดและการเลี้ยงลูกแมวก็คือการกินอาหารไขมันสูง แต่ควรจับตาอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการเพิ่มน้ำหนักที่ไม่จำเป็น การดูแลน้ำหนักของแมวตั้งครรภ์ แม้ว่าแม่แมวตั้งครรภ์จะมีขนาดเพิ่มขึ้นในช่วงระยะ 2 ใน 3 ของการตั้งครรภ์ แต่ไม่ควรเพิ่มน้ำหนักมากกว่า 40% ของน้ำหนักที่เหมาะสม โรคอ้วนสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนระหว่างการคลอดลูกแมว รวมทั้งปัญหาสุขภาพสำหรับแมวของคุณในภายหลัง ดังนั้นการเลือกอาหารที่เหมาะสมและการให้อาหารแมวตั้งครรภ์ของคุณอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้อง สุขภาพของแมวตั้งครรภ์และสุขภาพของลูกแมวแรกเกิดของคุณ อาหารและวิธีให้อาหารแมวตั้งครรภ์ ในตอนต้นของการตั้งครรภ์ คุณควรให้อาหารไขมันสูงกับแม่แมว โดยอาหารไขมันสูงนี้ออกแบบพิเศษมาเพื่อช่วยการตั้งครรภ์และต่อไปจะช่วยการผลิตน้ำนมซึ่งเป็นอาหารของลูกแมว ค่อยๆ เปลี่ยนอาหารของแมวตั้งครรภ์ โดยผสมอาหารไขมันสูงกับอาหารที่ให้อยู่ เริ่มจากให้อาหารใหม่ 25% ผสมกับอาหารที่ให้อยู่ 75% ภายใน 5-7 วัน คุณสามารถเพิ่มเปอร์เซ็นต์ของอาหารใหม่ไปจนถึง 100% การค่อยๆ เปลี่ยนอาหารนี้จะช่วยลดการระคายเคืองกระเพาะอาหารที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอาหารทันที เมื่อแมวของคุณผ่านกระบวนการตั้งครรภ์ แมวจะต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นประมาณ […]