10 สายพันธุ์ สุนัขล่าเนื้อ ที่ควรรู้จัก

สุนัขล่าเนื้อ (Hounds) สุนัขในกลุ่มนี้มีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นที่ ดีมาก สรีระร่างกายแข็งแรง ทำให้เป็นสุนัขรุ่นแรกๆ ที่ถูกมนุษย์นำมาใช้ล่าสัตว์ ต้นกำเนิดและประวัติ คำว่า Hound ครอบคลุมสายพันธุ์สุนัขที่หลากหลาย แต่ไม่ใช่ทั้งหมด จริงๆแล้วมันหมายถึงสิ่งเหล่านั้นเท่านั้น สัตว์เลี้ยงที่พบใกล้ชิดกับกิจกรรมการล่าสัตว์ตอบสนองฟังก์ชั่นบางอย่าง กีฬาชนิดนี้ลดทอนความนิยมลงอย่างมากซึ่งเป็นสาเหตุที่สายพันธุ์เหล่านี้จำนวนมากกลายเป็นส่วนหนึ่งของรายชื่อสัตว์เลี้ยงคู่หูที่ซื่อสัตย์เชื่องและฉลาดที่สุดที่สามารถเลือกได้และแม้กระทั่ง สุนัขล่าสัตว์ที่ถูกทิ้งมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี. เมื่อกิจกรรมการล่าสัตว์พัฒนาขึ้นสายพันธุ์สุนัขก็กำลังพัฒนาสำหรับ การคัดเลือกโดยธรรมชาติและความจำเป็นในการอยู่รอด วิวัฒนาการความสามารถที่แตกต่างกันที่แสดงให้เห็นในบทบาทที่พวกเขาแสดง เมื่อทำการล่าสัตว์จะต้องระบุชนิดของเหยื่อที่จะล่าก่อนจากนั้นจึงทำการติดตาม คือ งานนี้จำเป็นต้องมีกลิ่นความอดทนและระเบียบวินัย. สุนัขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกีฬานี้คือสุนัขน้ำที่ได้รับการฝึกฝนมาเพื่อ กิจกรรมตกปลาและเป็ดเช่นเดียวกับรีทรีฟเวอร์ที่มีการล่าสัตว์และที่ตั้งของนกเช่นพาร์ทริงก์ดังนั้นชื่อของมันนอกเหนือจากเกรย์ฮาวด์แล้ว ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ และตัวชี้ สุนัขล่าเนื้อมีสามประเภท โดยมีหลายสายพันธุ์ในแต่ละประเภท ดังนี้ 10 สายพันธุ์ สุนัขล่าเนื้อ 1. บีเกิล (Beagle) เป็นสายพันธุ์สุนัขมีถิ่นกำเนิดในประเทศสหราชอาณาจักร อยู่ในจำพวกกลุ่มสุนัขล่าเนื้อ (Hound) มีขนสั้นและหูปรก เป็นสุนัขที่มีประสาทด้านการดมกลิ่นเป็นเลิศ (scent hounds) ด้วยประสาทด้านการดมกลิ่นที่ไวมาก จึงได้มีการฝึกให้เป็นสุนัขตรวจสอบของผิดกฎหมาย อย่างเช่น ยาเสพติด วัตถุระเบิด ฯลฯ แต่บีเกิลยังได้รับความนิยมในฐานะสัตว์เลี้ยงเช่นกัน ด้วยขนาดตัวที่พอเหมาะ เป็นสุนัขอารมณ์ดี และสุขภาพแข็งแรงทนทานต่อโรค สุนัขสายพันธุ์บีเกิลมีมากว่า […]
5 อย่างที่ไม่ควรทำกับพันธุ์สุนัขไทย

สุนัขสายพันธุ์ไทยที่เรารู้จักกันดีคงหนีไม่พ้นสุนัขพันธุ์หลังอานและสุนัขพันธุ์บางแก้ว ซึ่งสุนัขสายพันธุ์ไทยส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่ยังมีความไม่มั่นคงทางจิตใจเท่าไหร่นัก ทำให้ฝึกค่อนข้างยาก วันนี้จึงเอาเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ไทยมาฝากกัน ใครอยากเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ไทย หรือ ใครที่เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ไทยอยู่ พันธุ์สุนัขในไทยที่นิยมมีอะไรบ้าง 1.พันธุ์ไทยหลังอาน สุนัขไทยหลังอาน ( Thai Ridgeback Dog ) เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกในชื่อ “หมาไทย” ( Mah Thai ) โดยปัจจุบันหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา มีการติดต่อสั่งซื้อไปเพาะเลี้ยงกัน จนถึงขั้นมีการจดทะเบียนสมาคมสุนัขไทยหลังอานในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย ภายใต้ชื่อ Thai Ridgeback Club of The United State (TRCUS) American Thai Ridgeback Association (ATRA) ถิ่นกำเนิด มีการวิเคราะห์และศึกษาจากผู้รู้ว่า หมาพันธุ์ไทยหลังอานน่าจะอยู่ในกลุ่ม Wolf , Fox, Jackal, Coyote เป็นสุนัขพันธุ์พื้นเมืองที่อยู่ในย่านเอเชียตะวันออก พื้นที่เขตร้อน ซึ่งสุนัขพื้นเมืองในเขตนี้จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน เช่น […]
ชื่อสุนัขมงคลตัวผู้ เชิญมูเตลูมาแลตะ

แน่นอนว่าหนึ่งในสิ่งที่ทุกคนต้องทำเมื่อได้สัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาก็คือ การตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงตัวนั้น ๆ ซึ่งควรจะคิดและตัดสินใจให้ดี เพราะมันจะเป็นชื่อที่เราใช้เรียกน้องหมา ไปตลอดชีวิต โดยคนส่วนใหญ่ก็มักจะตั้งชื่อตามที่ตัวเองชอบ แต่สำหรับใครที่เป็นสายมูก็คงจะอยากได้ชื่อสัตว์เลี้ยงมงคลที่มีความหมายดี ๆ ชื่อสุนัขมงคลตัวผู้ วิธีตั้งชื่อเพื่อความมงคลเสริมโชคลาภ สายมู ต้องไม่พลาด กับการตั้งชื่อมงคลให้ถูกโฉลกกับเจ้าของ ตั้งชื่อตามตัวอักษร ที่ถูกโฉลกกับวันเกิดของแต่ละคนอักษรถูกโฉลกคนเกิดวันอาทิตย์: สระทั้งหมดอักษรถูกโฉลกคนเกิดวันจันทร์: จ ฉ ช ซ ฌ ญ อักษรถูกโฉลกคนเกิดวันอังคาร: จ ฉ ช ซ ฌ ญอักษรถูกโฉลกคนเกิดวันพุธ (กลางวัน): ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณอักษรถูกโฉลกคนเกิดวันพุธ (กลางคืน): ย ร ล วอักษรถูกโฉลกคนเกิดวันพฤหัสบดี: ย ร ล ว: บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ มอักษรถูกโฉลกคนเกิดวันศุกร์: ศ […]
7 วิธีตัดเล็บสุนัข สามารถทำตามได้ง่ายๆ

การตัดเล็บเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยดูแลเล็บของสุนัขให้สั้นและสุขภาพดี แล้วยังช่วยปกป้องพื้นและเฟอร์นิเจอร์ของคุณจากรอยขีดข่วนอีกด้วย เล็บที่ยาวเกินอาจหักและทำให้เลือดออก หรืออาจจะยาวจนโค้งงอทิ่มอุ้งเท้าจนสุนัขเจ็บได้ นอกจากนี้มันยังจะทำให้สุนัขเดินกะโผลกกะเผลกเพราะเล็บยาวจนไปขัดขวางการเดิน ตัดเล็บให้สุนัข 1. ใช้กรรไกรตัดเล็บสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ กรรไกรตัดเล็บที่เราใช้กันทั่วไปถูกออกแบบมาสำหรับตัดพื้นผิวที่แบนราบ แต่เล็บของสุนัขมีลักษณะโค้งงอเป็นรูปถ้วย หากใช้กรรไกรตัดเล็บของคน อาจจะทำให้สุนัขเจ็บหรือเป็นแผลได้ ที่ตัดเล็บสำหรับสุนัขมีหลายแบบ แบบที่เห็นได้ทั่วไปจะเป็นทรงแบบกิโยตีน (เป็นรูปตัว U) หรือแบบกรรไกร คุณสามารถเลือกใช้แบบใดก็ได้ตามความชอบ 2. หาตำแหน่งเนื้อใต้เล็บของสุนัข เนื้อส่วนที่อยู่ใต้เล็บนั้นเต็มไปด้วยเส้นเลือดและเส้นประสาทมากมาย หากตัดโดนเข้า สุนัขอาจจะเจ็บมากและทำให้เลือดออกได้ ตามหลักการแล้ว ควรตัดให้เว้นระยะจากเนื้อประมาณ 2-4 มิลลิเมตร 3. จับสุนัขไว้ให้ดี ถ้าสุนัขของคุณกำลังผ่อนคลายหรือชินกับการถูกจับเท้าแล้ว ให้เขานอนลงเพื่อตัดเล็บได้เลย แต่ถ้าสุนัขดิ้นไปมา ให้คุณค่อยๆ รั้งตัวเขาไว้ให้นอนลงโดยใช้ศอกและแขนจับอุ้งเท้า 4. เริ่มจากขาหลังก่อน เล็บเท้าที่ขาหลังมักจะสั้นกว่าและตัดง่ายกว่าเท้าข้างหน้า และเวลาถูกจับขาหลัง สุนัขจะนิ่งกว่าเวลาถูกจับขาหน้าด้วย ดังนั้นให้เริ่มตัดเล็บจากขาหลังก่อน 5. ห้ามเลือดทันทีเมื่อตัดเข้าเนื้อ หากตัดถูกเนื้อใต้เล็บมักจะมีเลือดออกมาก สุนัขอาจจะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หรืออาจงับคุณได้ ถ้าคุณเผลอตัดโดนเนื้อสุนัขจนเลือดออก ให้ใช้กระดาษทิชชู่ซับไว้สักครู่ ถ้าเลือดยังไม่หยุดไหล ให้ทาแป้งข้าวโพดหรือยาห้ามเลือดแบบผงหรือแท่งลงบนแผล อาจจะเอานิ้วสุนัขจุ่มลงไปในผงหรือใช้นิ้วคุณทาให้ก็ได้ 6. ชมสุนัขบ่อยๆ การชมหรือให้ขนมเล็กๆ น้อยๆ เป็นแรงจูงใจที่ดีในการทำให้สุนัขอยู่นิ่ง […]
ฮีทสโตรกในสุนัข ภัยใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

อากาศในประเทศไทยไม่ว่าฤดูกาลไหน ปฎิเสธไม่ได้ว่ามักเจออากาศร้อนอบอ้าว ซึ่งโรคยอดฮิตที่คนพาสัตว์เลี้ยงมารักษากันเยอะมากก็คือ “โรคฮีทสโตรก” (Heat Stroke) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “โรคลมแดด” ยิ่งอยู่ในประเทศไทยที่แดดแรงจนตาจะทะลุด้วยเนี่ย ขนาดคนอย่างเรายังร้อนแทบจะทนไม่ไหวต้องหาอะไรมาช่วยคลายร้อน สัตว์เลี้ยงของเราก็ร้อนได้เหมือนกันเพียงแต่เขาบ่นไม่ได้ ฮีทสโตรกในสุนัข โรคลมแดด (Heat Stroke) คืออะไร? “โรคลมแดด” หรือ “ฮีทสโตรก” (Heat Stroke) ในสัตว์เลี้ยง เป็นภาวะที่ร่างกายของสัตว์ไม่สามารถระบายความร้อนออกมาได้ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงกว่าปกติ คือ สูงกว่า 41 องศาเซลเซียส ความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นจะส่งผลเสียต่อการทำงานของอวัยวะภายในต่าง ๆ แถมโรคนี้ยังเกิดขึ้นได้กับสัตว์เลี้ยงทุกชนิดโดยเฉพาะน้องหมา น้องแมว เพราะปกติสุนัขและแมวจะมีต่อมเหงื่อบริเวณฝ่าเท้าและจมูกเท่านั้น การระบายความร้อนจึงต้องอาศัยการหายใจและการหอบเป็นหลัก หากร่างกายของพวกเขาไม่สามารถระบายความร้อนได้ทันก็จะเกิดภาวะฮีทสโตรกขึ้น อาการฮีทสโตรกสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายและพบได้บ่อยในสุนัขมากกว่าแมว โดยเฉพาะสุนัขพันธุ์ที่ขนยาว ขนหนา และพันธุ์หน้าสั้น แถมอาการนี้ยังเกิดขึ้นได้ง่ายเพราะมีปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมภายนอกที่ส่งผล คือ สภาพอากาศร้อนชื้น การอยู่ในพื้นที่อบอ้าวอากาศถ่ายเทไม่ดี เมื่อร่างกายของสัตว์ได้รับความร้อนมากเกินไปจะทำให้เขาเกิดความเครียด ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่หมุนเวียนในร่างกายลดลงจนความดันเลือดต่ำ หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้น้อยลง การระบายความร้อนที่ต้องอาศัยเลือดเป็นสื่อกลางเกิดความบกพร่อง ความร้อนจึงสะสมอยู่ในร่างกายจนก่อให้เกิดภาวะฮีทสโตรก (Heat Stroke) ตามมา ไม่ว่าจะเป็นน้องหมา น้องแมว กระต่าย หรือสัตว์ต่าง […]
9 ขั้นตอนอาบน้ำหมายังไงให้ปลอดภัย

น้องหมาขนฟู นุ่ม เต็ม ไม่มีปัญหาขนร่วง สะอาดสะอ้านน่ากอดน่าอุ้ม ถือเป็นสุดยอดความปรารถนาของคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนเลยทีเดียว ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจาก การอาบน้ำทำความสะอาดที่ถูกวิธี ควรอาบน้ำสุนัขเมื่อไหร่ โดยธรรมชาติของสุนัขแต่ละตัวจะมีกลิ่นเฉพาะซึ่งถูกสร้างขึ้นตามธรรมชาติ โดยกลิ่นนี้จะถูกขับมาออกในบางบริเวณ เช่น อุ้งเท้า ซึ่งเป็นที่อยู่ของต่อมสร้างกลิ่น (Apocrine Gland) สามารถสร้างสารฟีโรโมน (Pheromones) และสารเคมีที่ใช้สื่อสารกับสุนัขตัวอื่น ซึ่งก็คือกลิ่นตัวของสุนัขแต่ละตัวนั่นเองนอกจากนี้ยังมีน้ำมันที่คอยหล่อเลี้ยงตามขน ทำให้ขนเป็นมันเงางามและนุ่มลื่น ดังนั้นหากเราอาบน้ำสุนัขบ่อยเกินไป จะส่งผลให้น้ำมันและกลิ่นเฉพาะตัวของสุนัขหายไป และมีส่วนทำให้การต้านทานเชื้อโรคลดลงไปด้วย ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่า หลังจากอาบน้ำให้สุนัขแล้ว สุนัขจะชอบไปนอนเกลือกกลิ้งตามพื้นหญ้าพื้นดินเพื่อให้กลิ่นเฉพาะตัวตามธรรมชาติของมันกลับมาเหมือนเดิม การเตรียมตัวก่อนอาบน้ำสุนัข อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า โดยธรรมชาติสุนัขไม่ได้อาบน้ำเป็นประจำอยู่แล้ว ดังนั้นการอาบน้ำสุนัขจึงต้องมีการเตรียมตัวและอุปกรณ์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้ ขั้นตอนการอาบน้ำสุนัข การอาบน้ำสุนัข ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก มีขั้นตอนดังนี้ อาบน้ำสุนัขตอนอายุเท่าไร สุนัขที่เริ่มอาบน้ำได้ ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 2 เดือน เพราะสุนัขที่อายุน้อยกว่า 2 เดือนร่างกายยังไม่แข็งแรงและภูมิต้านทานโรคยังน้อยมาก จะทำให้สุนัขป่วยง่าย ควรอาบน้ำสุนัขบ่อยแค่ไหน โดยทั่วไปเราควรอาบน้ำสุนัขเดือนละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว เพราะการอาบน้ำบ่อยเกินไปอาจทำให้สภาพผิวหนังและขนเปลี่ยนแปลงไป หรือเกิดปัญหาผิวหนังและขนแห้งหยาบ […]
สุนัข กับตำนาน 12,000 ปี

สุนัขมีต้นกำเนิดมาจากสุนัขป่าโดยมนุษย์แถบขั้วโลกเหนือนำมาเลี้ยงเมื่อ 12,000 ปีมาแล้ว เชื่อกันว่าสุนัขป่าตัวแรกเกิดขึ้นเมื่อ 100 ล้านปีที่แล้ว สมัยแรกเริ่มก็ไม่ได้มีหน้าตาเหมือนสุนัขในปัจจุบันนี้ และกว่าจะพัฒนามาจนมีหน้าตาเหมือนปัจจุบัน ก็ต้องใช้เวลาระยะเวลานานพอสมควรกว่าที่เราจะได้รู้จักสุนัขที่หน้าตาเหมือนสุนัขในปัจจุบันนี้จากรูปภาพโบราณอายุประมาณ 12,000 – 14,000 ปี ในยุโรป สุนัข แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ 6 กลุ่ม ดังนี้ 1. สุนัขล่าเนื้อ ( Hounds ) 2. สุนัขเพื่อเกมส์กีฬา ( Sporting Dogs ) 3. สุนัขเทอร์เรีย ( Terriers ) 4. สุนัขทำงาน ( Working dogs ) 5. สุนัขตุ๊กตา ( Toy ) 6. สุนัข อเนกประสงค์ ( Non Sporting ) […]
10 สาย พันธุ์สุนัข ที่นำไปเลี้ยงแล้วจะมีแต่รอยยิ้ม

ด้วยสายพันธุ์ที่มีนับร้อย การหาสุนัขที่ถูกใจและเหมาะสมมาเลี้ยงจึงเป็นเรื่องยาก แหล่งข้อมูลสายพันธุ์ของเราจะทำให้คุณเข้าใจความแตกต่างของสุนัขแต่ละสายพันธุ์ และช่วยเลือกสายพันธุ์ที่เข้ากับคุณได้มากที่สุด คุณจะได้รับข้อมูลทั้งได้ประวัติความเป็นมา ลักษณะนิสัยของแต่ละสายพันธุ์ และเข้าใจปัญหาด้านสุขภาพ วิธีการดูแล รวมถึงสารอาหารที่สุนัขสายพันธุ์นั้น ๆ ต้องการ 10 สายพันธุ์เจ้าตูบ 1. ชิวาวา (CHIHUAHUA) รู้จักชิวาวา (CHIHUAHUA) สุนัขตัวจิ๋ว และวิธีดีๆ ในการดูแลสุขภาพทำความรู้จักชิวาวา ถ้าให้นึกถึงสายพันธุ์สุนัขที่ได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย หลายคนต้องเอ่ยชื่อสายพันธุ์ชิวาวา ออกมาแน่นอนเพราะขนาดตัวที่เล็กกะทัดรัด ทำให้ชิวาวาสามารถปรับตัวเข้ากับการเลี้ยงในพื้นที่จำกัดได้ดี บวกกับความฉลาด เรียนรู้ได้เร็ว และติดเจ้าของในแบบที่ไม่ว่าจะพกชิวาวาไปไหนก็ยินดีไปด้วยแบบสุดๆ ไม่แปลกเลยที่ใครต่อใครก็หลงรักสุนัขสายพันธุ์นี้ มาทำความรู้จักชิวาวากันให้มากขึ้น แล้วมาดูสุนัขสายพันธุ์นี้กันให้เต็มที่ กับเคล็ดไม่ลับดีๆ ที่เรามีมาฝาก 2. ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian) สุนัขตัวเล็กหัวใจไม่เล็กและเคล็ดลับในการดูแลสุขภาพ ทำความรู้จักปอมเมอเรเนียน (Pomeranian) ปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขที่จัดอยู่ในกลุ่ม Toy Group แม้ว่าจะมีขนาดตัวเล็กแต่ปอมเมอเรเนียนกลับครองใจเจ้าของผู้เลี้ยงมาอย่างยาวนาน แถมยังเป็นสายพันธุ์สุดโปรดของทั้งเจ้าของอย่างเราและเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง แถมประวัติของสุนัขสายพันธุ์นี้ยังมีความน่าสนใจไม่แพ้สายพันธุ์ไหน ด้วยขนที่ฟูดูนุ่มน่ากอด หน้าตาจิ้มลิ้ม มีความเป็นมิตร น่ารักมีชีวิตชีวา ขนาดตัวที่แสนกะทัดรัด ช่างเอาอกเอาใจ แอคทีฟแสนกระตือรือร้น และเก่งไม่แพ้สุนัขสายพันธุ์ไหนในสนามประลองความสามารถก็เล่นทำได้ไปเสียหมดทุกเรื่องขนาดนี้ มิน่าล่ะทำไมใครๆ […]
ไอเทมที่ช่วยเจ้าหมาได้ในหน้าฝน

เสื้อกันฝนเป็นตัวช่วยที่ไม่เพียงแต่ทำให้น้องหมาตัวแห้งเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเค้ารู้สึกสบายมากขึ้นเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน รองเท้ากันฝนสำหรับน้องหมา มักทำจากยางที่มีความยืดหยุ่น มีปุ่มสัมผัสกันลื่น ควรสวมใส่ในเฉพาะเวลาที่ต้องเดินเหยียบน้ำ โคลน หรือลุยฝนเท่านั้น เสื้อกันฝน เสื้อกันฝนเป็นตัวช่วยที่ไม่เพียงแต่ทำให้น้องหมาตัวแห้งเท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเค้ารู้สึกสบายมากขึ้นเมื่อต้องออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน แถมยังช่วยป้องกันหยดน้ำฝนไม่ให้เปียกตัวน้องหมาจนเกิดความอับชื้น พร้อมยังช่วยลดแรงในการเช็ดน้ำฝนออกของเราได้อีกด้วย สำหรับเสื้อกันฝนสำหรับสุนัขมีหลายประเภท บางตัวมีหมวก สามารถคลุมศีรษะของน้องหมาไม่ให้เปียกฝน บางตัวออกแบบให้มีแขนยาว ทำให้ป้องกันไม่ให้ขนบริเวณช่วงขาของน้องหมาเปียกน้ำฝน รวมถึงเสื้อกันฝนสำหรับน้องหมาบางชนิดยังถูกออกแบบให้มีน้ำหนักเบาพอที่จะพกพาได้ง่าย ซึ่งเป็นประโยชน์ถ้าหากต้องออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ แล้วเกิดฝนตกขึ้นกระทันหันก็หยิบออกมาใช้งานได้สะดวก รองเท้ากันฝน ปกติแล้วเราจะเห็นรองเท้าสำหรับน้องหมาที่ใช้สำหรับใส่เดิน ป้องกันฝุ่นดิน สิ่งสกปรกจากพื้นทั่ว ๆ ไป แต่ในช่วงหน้าฝน ไอเทมชิ้นนึงที่ขาดไม่ได้เลยก็คือรองเท้ากันฝนสำหรับน้องหมา ซึ่งรองเท้ากันฝนสำหรับน้องหมานี้ส่วนมากแล้วจะทำมาจากยางที่มีความยืดหยุ่น มีปุ่มสัมผัสกันลื่น สวมใส่สบาย และสวมใส่ในเฉพาะเวลาที่น้องหมาต้องเดินเหยียบน้ำ โคลน หรือลุยฝนเท่านั้น เพราะรองเท้ากันฝนของน้องหมาจะไม่มีรูระบายอากาศเหมือนกับรองเท้าทั่วไปสำหรับน้องหมานั่นเอง ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ เมื่อน้องหมาตัวเปียกจากการสัมผัสน้ำฝน ตัวช่วยอีกตัวที่จะช่วยให้น้องหมาตัวแห้งรวดเร็วขึ้นก็คือ ผ้าขนหนูที่มีลักษณะดูดซับน้ำได้ดี (Quick-Dry Dog Towel) โดยหลังจากใช้ผ้าขนหนูซับน้ำฝนออกจากตัวน้องหมาจนหมาดแล้ว แนะนำว่า ให้ใช้ไดร์เป่าผมเป่าน้องหมาอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่า ผิวหนังและเส้นขนของน้องหมาแห้งสนิท เพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น ซึ่งอาจทำให้เชื้อรา และแบคทีเรียเจริญเติบโต ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังนะ […]
การปฐมพยาบาลให้น้องหมาเบื้องต้น

เหตุการณ์ไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้จะระมัดระวังเพียงใด แต่เหตุฉุกเฉินก็สามารถเกิดขึ้นกับน้องหมาของเราได้เสมอ ดังนั้นคงจะดีถ้าเรารู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับน้องหมาที่เรารัก ซึ่งการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องจะช่วยลดความเจ็บปวด และบรรเทาอาการเบื้องต้นไม่ให้รุนแรงมากขึ้นไปกว่าเดิมได้ก่อนที่จะได้พบกับสัตวแพทย์ First Aid วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เพราะอุบัติเหตุคือสิ่งที่ไม่คาดฝันและเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ เหล่าคุณพ่อคุณแม่ของน้องหมาน้องแมวจึงต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมไว้ดูแลในวันที่น้องหมาน้องแมวต้องพบกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เรามารู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจพบได้กันดีกว่า แนวทางการจัดการเหตุฉุกเฉินแบบต่างๆ เพราะอุบัติเหตุคือสิ่งที่ไม่คาดฝันและเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ เหล่าคุณพ่อคุณแม่ของน้องหมาน้องแมวจึงต้องเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมไว้ดูแลในวันที่น้องหมาน้องแมวต้องพบกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน เรามารู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นในสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจพบได้กันดีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉินคือ “การตั้งสติ” เหล่าคุณพ่อคุณแม่ต้องพิจารณาสถานการณ์อย่างรอบคอบ เพื่อแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า และลดความรุนแรงของอาการอย่างดีที่สุด ก่อนที่จะส่งตัวน้องหมาน้องแมวให้ถึงมือคุณหมอเพื่อรักษาในขั้นต่อไป 1. ผึ้งหรือตัวต่อต่อย แท้จริงแล้วเหล็กในผึ้งกับต่อไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะเหล็กในผึ้งมีฤทธิ์เป็นกรด จึงต้องล้างด้วยเบกกิ้งโซดาที่เป็นด่าง แต่ถ้าเป็นเหล็กในตัวต่อจะมีฤทธิ์เป็นด่าง ควรล้างด้วยน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู เพื่อให้ฤทธิ์ของเหล็กในอ่อนลงไป จากนั้นประคบเย็นบริเวณที่น้องหมาหรือน้องแมวโดนต่อย และทาคาลาไมน์หรือครีมกันแมลงกัดต่อย คอยสังเกตอาการต่อเนื่องว่าน้องหมาน้องแมวมีอาการบวมมากหรือหายใจลำบากหรือไม่ หากมีอาการดังกล่าวควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะน้องอาจจะแพ้เหล็กในผึ้งหรือต่ออย่างรุนแรงได้ 2. มีแผลเลือดออก โดยทั่วไปถ้าแผลตื้นถือว่าไม่อันตรายมาก เพียงล้างแผลด้วยน้ำสะอาด หรือใช้น้ำเกลือล้างแผล และใช้ยาสำหรับใส่แผลสดทาบริเวณแผลแต่ถ้าน้องหมาหรือน้องแมวมีแผลลึกถึงหลอดเลือดแดงและมีเลือดออกมาก จะสังเกตได้จากเลือดที่ไหลออกมาจะมีสีแดงสด พุ่งแรง และหยุดยาก ให้รีบล้างแผลด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำเกลือล้างแผล ก่อนจะใช้ผ้าก๊อซสะอาดกดปากแผลให้แน่นไว้เป็นเวลา […]