4 ทริคเพิ่มสุขให้ตูบง่าย ๆ ในวันฝนตก
สภาพอากาศส่งผลต่อพฤติกรรมของน้องหมาได้ เราต้องคอยสังเกตและดูแลเค้าเสมอ มาดูวิธีที่จะทำให้น้องหมามีความสุขได้ ในวันฝนตกเปลี่ยนวันฝนตกที่น่าเบื่อให้น้องหมาแฮปปี้กัน กับวิธีง่าย ๆ 4 ทริคเพิ่มสุขให้ตูบง่าย ๆ ในวันฝนตก 1. ชวนเล่นเพิ่มสุข ในวันที่ฝนตก ท้องฟ้าหม่น อาจทำให้น้องหมารู้สึกเบื่อหน่าย ไม่กระตือรือร้น แนะนำให้ลองหากิจกรรมมาทำร่วมกัน หรือชวนเล่นด้วยของเล่นที่เคลื่อนไหวได้เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัว อาจจะใช้ห้องนั่งเล่นให้เป็นประโยชน์ โดยอาจจะเปิดทีวี เปิดเพลงฟังกลบเสียงฝนตกและอาจจะพาน้องหมามานั่งข้าง ๆ สัมผัสเพื่อให้เค้ารู้สึกผ่อนคลาย ไม่รู้สึกวิตกกังวลและลืมว่า ฝนกำลังตกอยู่ 2. กรูมมิ่งให้ตัวหอม ด้วยพื้นที่แฉะทำให้น้องหมาออกไปเดินเล่นข้างนอกบ้านไม่ได้ ก็อาจจะใช้โอกาสนี้กรูมมิ่งให้เค้า … การกรูมมิ่งควรทำให้เป็นประจำตั้งแต่ยังเด็กเพื่อให้เกิดความคุ้นชิน ตั้งแต่การตัดเล็บ ทำความสะอาดหู เช็ดตา รวมถึงหมั่นแปรงขนเพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วงออกไปให้หมด จะช่วยป้องกันปัญหาขนพันกันเป็นสังกะตังได้ แนะนำเลือกใช้แชมพูสูตรที่เหมาะกับผิวหนังและสภาพเส้นขน ที่สำคัญต้องเป่าขนให้แห้ง ไม่ควรปล่อยให้เกิดความอับชื้น ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังได้ 3. ให้ของโปรดที่เค้าชอบ ในช่วงหน้าฝน ต้องให้น้ำสะอาด เปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ และระวังไม่ให้ไปกินน้ำสกปรกเพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ ให้อาหารที่มีประโยชน์อาจจะเลือกเป็นของโปรดที่น้องหมาชอบ และควรให้อาหารที่สดใหม่ สะอาด เพื่อสุขอนามัยที่ดี และอาจให้ขนมให้เค้าได้กินเล่น จะได้ไม่รู้สึกเบื่อ […]
4 ทริคดูแลฟันตูบให้ขาวปิ๊ง ไร้กลิ่นปาก
เรื่องกลิ่นปาก ไม่ใช่เรื่องตลก เพราะฉะนั้นต้องดูแลสุขภาพช่องปากน้องหมาตั้งแต่เด็ก น้องหมาสายพันธุ์เล็กที่มีอายุยืนยาว มักพบปัญหาสุขภาพช่องปาก มาดูแลสุขภาพช่องปากน้องหมาให้หอม สะอาดแบบง่าย ๆ กัน ซึ่งมีวิธีดูแลไม่ยากเลย แค่ทำตามนี้น้า 4 ทริคดูแลฟันตูบให้ขาวปิ๊ง ไร้กลิ่นปาก 1. แปรงฟันทุกวัน เริ่มหัดแปรงฟันให้น้องหมาตั้งแต่ฟันน้องหมาอายุ 8 สัปดาห์ หรือในช่วงที่น้องหมามีฟันน้ำนมขึ้นจนครบเพื่อให้น้องหมาเกิดความเคยชิน เพราะเมื่อน้องหมาเริ่มมีฟันแท้ที่อายุประมาณ 7 เดือน จะได้ไม่เกิดปัญหาน้องหมาดื้อไม่ยอมให้แปรงฟันน้า … แนะนำให้หาซื้อแปรงสีฟันได้ตามร้านค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือขอคำปรึกษาจากคุณหมอให้ช่วยแนะนำเพราะน้องหมาพันธุ์ต่าง ๆ จะมีแปรงที่เหมาะกับช่องปากต่างกันไป 2. ใช้เจลและน้ำยาขจัดคราบหินปูน ถ้าหากน้องหมาต่อต้านการแปรงฟัน แนะนำให้ใช้วิธีใช้เจล หรือน้ำยาขจัดคราบหินปูน ซึ่งมีคุณสมบัติในการกำจัดกลิ่นปาก ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยขจัดและยับยั้งการเกิดใหม่ของหินปูนที่เป็นสาเหตุของปัญหาโรคเหงือกและฟัน ป้องกันฟันผุ สามารถกลืนได้ไม่มีอันตรายต่อสุขภาพของน้องหมา 3. เปลี่ยนน้ำสะอาดทุกวัน ให้น้ำดื่มใหม่กับน้องหมาทุกวัน โดยเปลี่ยนทุกเช้าและเย็น เพื่อไม่มีฝุ่นผง แบคทีเรีย เศษอาหารสะสม การเปลี่ยนน้ำให้บ่อย ๆ จะช่วยเรื่องกลิ่นปาก และน้องหมาก็ได้กินน้ำที่สะอาด ช่วยลดการเจ็บป่วยในน้องหมาได้ด้วยน้า […]
10 เคล็ดลับวิธีเลี้ยงสุนัขและแมว
เมื่อเราต้องอยู่แต่ในบ้านสัตว์เลี้ยงมักกลายเป็นเพื่อนที่ช่วยสร้างความสุขและคลายความกังวลได้เป็นอย่างดี การที่เจ้าของได้เห็นหางที่แกว่งไปมาอย่างมีความสุขหรือได้ยินเสียงออดอ้อนให้อุ้มขณะกำลังไม่สบายใจนั้น ช่วยลดความเครียดได้ แต่สุนัขและแมวก็รู้สึกเบื่อได้เหมือนกันถ้าเขาต้องติดอยู่ในบ้านนาน ๆ 10 เคล็ดลับวิธีเลี้ยงสุนัขและแมว 1. รักษากิจวัตรประจำวัน ช่วงสถานการณ์โควิด คุณอาจต้องปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันจากหน้ามือเป็นหลังมือ และมีความเป็นไปได้สูงที่กิจวัตรของสัตว์เลี้ยงก็จะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ของ Purina ดร. แอนนี วาลุสกา ได้ให้คำแนะนำว่า “ผู้เลี้ยงจะต้องรักษาตารางกิจวัตรประจำวันของสัตว์เลี้ยงให้เหมือนเดิมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การขับถ่ายหรือการเดินออกกำลัง กิจกรรมเหล่านี้ควรเป็นไปตามเวลาเดิมที่ทำเป็นกิจวัตร” นอกจากนี้ ดร. แอนนี วาลุสกา ยังได้เน้นให้เจ้าของหมั่นฝึกสัตว์เลี้ยงให้รักษามารยาทต่าง ๆ อยู่เสมอเช่น ให้นั่งลงก่อนที่จะเดินผ่านประตู หรือไม่สะกิดขออาหารเมื่อเจ้าของกำลังทานข้าว สิ่งเหล่านี้ก็เป็นวิธีที่สำคัญในการรักษากิจวัตรของสัตว์เลี้ยงเช่นกัน 2. กำหนดเวลาพักผ่อน สัตว์เลี้ยงอาจเคยชินที่ได้ใช้เวลาส่วนตัวเมื่อครอบครัวไม่อยู่ ดังนั้นจึงควรให้เขาได้มีเวลาพักผ่อนเป็นช่วง ๆ ตลอดวัน ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสัตว์ของ Purina ดร. ฟรานซัวส์ มาร์ติน ได้ย้ำว่า “ไม่ควรเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันของสัตว์เลี้ยงโดยให้เข้าสังคมมากเกินไป เพราะว่าสัตว์เลี้ยงนั้นไม่ใช่เด็ก เจ้าของจึงไม่จำเป็นต้องหากิจกรรมให้สัตว์เลี้ยงทำตลอดเวลา” เหล่าพ่อแม่คงโล่งอกที่ได้ยินเช่นนี้ เพราะว่าเด็ก ๆ […]
9 วิธีการ ทำให้หมาและแมวอยู่ด้วยกันได้
9 วิธีการ ทำให้หมาและแมวอยู่ด้วยกันได้ คุณกำลังคิดจะนำสุนัขมาเลี้ยง แต่กลัวว่าแมวที่บ้านจะไม่ชอบหรือเปล่า? หรือว่ามีทั้งแมวและสุนัขอยู่แล้ว แต่พวกมันไม่ยอมหยุดทะเลาะกันสักทีหรือไม่? แม้แมวและสุนัขส่วนใหญ่จะไม่ค่อยถูกกัน แต่ก็ยังมีหลายวิธีที่จะช่วยให้สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นปรับตัวให้อยู่ร่วมกันได้ หากคุณใช้เวลาทำความเข้าใจในสิ่งที่แมวและสุนัขต้องการสักนิด คุณก็จะสามารถอยู่บ้านอย่างสงบและมีความสุข โดยที่สัตว์เลี้ยงของคุณไม่ทะเลาะกันได้ 1. แนะนำสุนัขและแมวให้รู้จักกันครั้งแรก เตรียมพร้อมสำหรับการแนะนำให้รู้จักกัน. ไม่ว่าคุณจะกำลังนำแมวหรือสุนัขตัวใหม่มาเลี้ยงที่บ้านที่มีแมวหรือสุนัขอยู่แล้ว หรือกำลังพยายามที่จะทำให้ทั้งแมวและสุนัขที่บ้านปรับตัวอยู่ด้วยกันได้ คุณจำเป็นต้องสร้างรากฐานที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์ของสัตว์เลี้ยงให้ได้ก่อน เริ่มต้นด้วยการดูให้แน่ใจว่าที่บ้านคุณ มีพื้นที่มากพอให้สัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง เพราะในขั้นแรกคุณต้องจับทั้งคู่แยกออกจากกันให้ได้หลายๆ วันก่อน ในบ้านคุณจึงจำเป็นต้องมีห้องหลายๆ ห้องไว้ นอกจากนี้ต้องแน่ใจด้วยว่าสุนัขของคุณฟังคำสั่งคุณ หากมันไม่ใส่ใจในสิ่งที่คุณสั่งให้ทำ คุณจะต้องฝึกมันใหม่อีกครั้ง ที่สำคัญ อย่าปล่อยให้การเผชิญหน้ากันครั้งแรกระหว่างแมวและสุนัขของคุณ กลายเป็นสิ่งที่รุนแรงเพราะความอยู่ไม่สุขและความดุดันของลูกสุนัขคุณ หากคุณกำลังนำสุนัขตัวใหม่มาเลี้ยงที่บ้าน หรือมีลูกสุนัขที่ยังไม่รู้คำสั่ง ให้คุณระวังให้มากขึ้นเมื่อนำสุนัขของคุณไปทำความรู้จักกับแมวที่บ้าน 2. ทำไปอย่างช้าๆ อย่าปล่อยให้สุนัขของคุณวิ่งไล่แมวของคุณไปมาเด็ดขาด ให้จับทั้งคู่แยกกันอยู่ก่อน แล้วรอสัก 3 หรือ 4 วันแล้วค่อยพาทั้งคู่มาทำความรู้จักกัน เพราะส่วนใหญ่แล้วสัตว์จะต้องการเวลาในการทำความคุ้นเคยกับกลิ่น และทำความรู้จักกับบ้านหลังใหม่ก่อนที่จะทำความคุ้นเคยกับสัตว์ตัวอื่น แมวและสุนัขมีแนวโน้มที่จะทะเลาะกันหรือไม่มีความสุข หากคุณพยายามบังคับให้ทั้งคู่เข้ากันให้ได้เลยในทันที ดังนั้น จัดให้ทั้งคู่อยู่คนละห้องที่ทำให้มองไม่เห็นซึ่งกันและกันก่อน จนกว่าทั้งคู่มีท่าทีสงบลงแล้ว เริ่มด้วยการผสมกลิ่นของทั้งคู่ โดยการลูบตัวแมว จากนั้นก็ไปลูบที่ตัวสุนัข และก็ทำสลับกันโดยให้ลูบตัวสุนัข แล้วค่อยไปลูบตัวแมว […]
5 วิธีป้องกันหมาแมวกลัวพลุไฟ
พลุเฉลิมฉลอง นอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังสร้างความตื่นเต้น และสีสัน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พลุไฟนั้นมีเสียงดังจนทำให้คนเราตกใจได้ และในสัตว์เลี้ยงก็เช่นกันที่ทำให้เกิดอาการตกใจ และวิ่งเตลิดหนีเพราะเสียงทีดังและแสงที่สว่างได้ วิธีง่าย ๆ ที่จะทำให้น้องหมา น้องแมว ไม่กลัวพลุไฟ เราสามารถทำได้ตามนี้เลยน้า 5 วิธีป้องกันหมาแมวกลัวพลุไฟ 1.เก็บน้องหมาแมวเข้าบ้าน ดูแลน้องหมาอย่างใกล้ชิด 2.ปิดบ้านให้สนิท ปิดม่านเพื่อไม่ให้เห็นแสงสว่างวูบวาบ 3.อยู่ใกล้ ๆ ให้น้องหมา น้องแมวรู้สึกปลอดภัยว่าอยู่ใกล้ ๆ เราไม่เป็นอันตรายแน่นอน อาจจะคอยลูบตัวน้องเบา ๆ 4.แนะนำให้เปิดเพลงคลอ สบาย ๆ เพื่อให้เค้ารู้สึกผ่อนคลายและกลบเสียงพลุที่ดังไม่เป็นจังหวะ 5.เมื่อเสียงพลุหยุดลง ให้รางวัล หรือชมน้องหมา น้องแมวเพื่อบอกเค้าว่า ทำดีแล้ว อย่างไรก็ตามวิธีที่แนะนำทั้งหมดนี้ เป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้นน้า จริง ๆ แล้วควรฝึกให้น้องหมา น้องแมวคุ้นเคยกับเสียงดัง ๆ เช่น ซ้อมเปิดเสียงพลุดัง ๆ ให้น้องหมา น้องแมวฟัง หรือฝึกเค้าให้เจอผู้คน เจอเสียงดัง ๆ […]
หน้าฝนหมาไม่ป่วยแน่ แค่ทำ 5 อย่างนี้
หน้าฝนหมาไม่ป่วยแน่ แค่ทำ 5 อย่างนี้ ฝนตกบ่อยแบบนี้ มาดูแลน้องหมากันเถอะ เคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยป้องกันน้องหมาไม่ให้เจ็บป่วยกันง่าย ๆ ในช่วงหน้าฝน ทำง่าย ๆ ตามนี้เลย 1. เพิ่มพลังด้วยอาหาร เพื่อให้น้องหมามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจากภายใน ช่วงหน้าฝนนี้แนะนำให้อาหารที่หลากหลาย เหมาะสม และครบถ้วน โดยเลือกให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายน้องหมาก็คือ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน ฯลฯ เวลาเลือกอาหารให้น้องหมา จำเป็นต้องเลือกสูตรที่เหมาะสมกับน้องหมาแต่ละช่วงวัย ความต้องการ และขนาดตัวของน้องหมาด้วยนะ 2. ดูแลให้ตัวแห้งตลอดเวลา ดูแลความสะอาดที่ตัวน้องหมา ในหน้าฝนแบบนี้ ควรหมั่นอาบน้ำให้น้องหมาสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ไม่ให้น้องหมาออกไปวิ่งเล่นบนพื้นแฉะ หรือตากฝน เมื่อเห็นน้องหมาตัวเปียกให้รีบ เช็ดทำความสะอาดให้ผิวหนังและเส้นขนแห้งโดยเร็ว เพราะความอับชื้นจะทำให้เชื้อยีสต์ เชื้อแบคทีเรีย เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เค้าเป็นโรคผิวหนังได้ รวมถึงแปรงขนเพื่อนำขนชุดเก่าออก ให้อากาศได้ถ่ายเท ขนไม่เป็นสังกะตังน้า 3. ให้ความอบอุ่น ในช่วงหน้าฝนที่ฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันหลาย ๆ วัน […]
4 โรคจากสุนัข ที่คุณอาจจะได้รับ
มนุษย์สามารถติดโรคจากสุนัขได้หรือไม่ ? คำตอบก็คือ ได้ แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่คนทั่วไปคิดคำนึงถึงกันสักเท่าไหร่นัก สุนัขของคุณสามารถมอบสิ่งต่างๆให้กับคุณได้มากมาย ทั้งความรัก ความสนใจ ความบันเทิง เพื่อน รวมไปถึงการติดเชื้อ แต่การตื่นตัวเกี่ยวกับปัญหานี้สามารถช่วยให้คุณกับสุนัขมีสุขภาพที่แข็งแรงได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเป็นเจ้าของสุนัขหรือแมว นกหรือสัตว์เลื้อยคลาน กระต่ายหรือปลา คุณต้องระมัดระวังว่าสัตว์เลี้ยงอาจจะแพร่เชื้อโรคมาติดสู่ตัวคุณได้ ซึ่งเรียกกันว่า “โรคที่แพร่กระจายจากสัตว์มาสู่คน” โรคจากสุนัข คือโรคจากสัตว์ที่สามารถติดต่อมาสู่มนุษย์ได้ อาจจะพบเห็นได้ยาก หรือเกิดจากรูปแบบความสัมพันธ์ที่ผิดปกติ ซึ่งไม่ใช่ทุกโรคที่สัตว์เป็นแล้วมนุษย์จะเป็นตาม โรคที่แพร่กระจายจากสัตว์สู่มนุษย์จะมีความพิเศษ ไวรัสหลายชนิดสามารถติดต่อจากสุนัขไปยังสุนัขได้ แต่ไม่สามารถติดจากสุนัขมาสู่คนหรือแมวได้ อย่างไรก็ตามคุณควรระมัดระวังโรคจากสัตว์มาสู่คน ซึ่งโรคที่พบบ่อยก็มีดังนี้ 1. ปรสิต (Parasites) โรคที่เกิดจากพยาธิในกระเพาะหรือลำไส้ เช่น พยาธิปากขอและพยาธิตัวกลม ซึ่งอาจจะติดจากการที่คุณได้รับไข่ของพยาธิเข้าไปในร่างกายหรือเกิดจากการสัมผัสกับไข่หรือตัวอ่อนของพยาธิที่อยู่ในดิน ทั้งนี้อาจจะเกิดจากการที่คุณทำสวน ทำความสะอาดรั้ว หรือเดินบนดินบนทรายด้วยเท้าเปล่า ด้วยเหตุผลต่างๆเหล่านี้ ทำให้เด็กๆตกอยู่ในความเสี่ยง ต้องแน่ใจว่าเด็กๆล้างมือทุกครั้งหลังจากที่สัมผัสกับสัตว์เลี้ยง 2. โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) ทุกคนคงจะรู้จักโรคนี้กันดีอยู่แล้ว เกิดจากการที่สุนัขได้รับเชื้อแล้วส่งผ่านโรคมาทางน้ำลาย เช่น กัด หรือน้ำลายสุนัขผ่านเข้าสู่ร่างกายคน ทั้งสุนัขและแมวสามารถเป็นโรคนี้ได้ […]
28 กันยายน World Rabies Day
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กำหนดให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปีเป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day) ซึ่งตรงกับวันครบรอบการเสียชีวิตของหลุยส์ ปาสเตอร์ ผู้คิดค้นวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าโดยมีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ ในการเลี้ยงดูสุนัขให้ประชาชนรับทราบถึงความรุนแรงของโรคพิษสุนัขบ้า สร้างจิตสำนึกของประชาชน ในการควบคุมและป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตราสัญลักษณ์ของ World Rabies Day เป็นตรารูปโลกมีภาพคน สุนัขและค้างคาว ล้อมรอบด้วยตัวหนังสือ World Rabies Day September 28 อยู่ในวงแหวน 2 ชั้น ซึ่งจะใช้ภาษาของแต่ละประเทศ วันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก (World Rabies Day) จัดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 2007 โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) โดยถูกกำหนดให้จัดตรงกับวันที่ 28 กันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นวันเสียชีวิตของ “หลุยส์ ปาสเตอร์” ผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า สำหรับฉีดให้คนที่ถูกสุนัขบ้ากัดได้สำเร็จเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายจากโรคพิษสุนัขบ้าและร่วมมือร่วมใจป้องกันโรคนี้ด้วยการให้วัคซีนกับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์กรโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ […]
วิธีกำจัดป้องกันปรสิตภายใน & ภายนอก
คุณรู้จักโรคปรสิตที่สำคัญของสุนัขหรือไม่ พยาธิหนอนหัวใจในสุนัข อันตรายถึงตาย ควรป้องกันเดือนละครั้ง หยุดวงจรได้ง่ายๆ ด้วยการให้ยาป้องกัน พยาธิหนอนหัวใจเป็นประจำทุกเดือน ยุงดูดเลือดสุนัข ตัวอ่อนพยาธิพัฒนาไปเป็น ตัวอ่อนระยะติดต่อในตัวยุง ยุงกัดสุนัขและปล่อยตัวอ่อน พยาธิหนอนหัวใจออกมา ตัวอ่อน พยาธิไชเข้าสู่เนื้อเยื่อของสุนัข ตัวอ่อนจะเจริญเป็นตัวเต็มวัย ที่อายุประมาณ 5-6 เดือน พยาธิตัวเต็มวัยเพศเมียอาจ มีขนาดความยาวของล่าตัว ได้เท่ากับ 1 ไม้บรรทัด หรือ 30 เซนติเมตร โดยจะไปอาศัย อยู่ที่หัวใจห้องล่างขวา ปรสิตภายใน พยาธิหนอนหัวใจ โรคพยาธิที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ ชีวิตในสุนัข พยาธิในระบบทางเดินอาหาร เช่น พยาธิปากขอ พยาธิ ไส้เดือน พยาธิแส้ม้า พยาธิปากงอ เป็นพยาธิในระบบทางเดินอาหารที่พบได้ บ่อยที่สุดในสุนัข คือ พบได้มากในลุกสุนัขอายุน้อยกว่า 1 ปี โรคพยาธิปากขอติดสู่คนได้ถ้ามนุษย์ได้รับตัวอ่อน พยาธิเข้าสู่ร่างกาย ผ่านทางการไชเข้าสู่ผิวหนัง เป็นสาเหตุ ของปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น ปวดท้อง […]
โรคในสุนัขที่สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน
การฉีดวัคซีนช่วยสุนัขของท่านอย่างไรบ้าง โรคในสุนัขที่สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน สุนัขเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์และไว้ใจของมนุษย์ ความอยากรู้อยากเห็น โดยธรรมชาติ อาจจะทำให้สุนัขมีโอกาสติดโรคจากสุนัขหรือสัตว์อื่น ๆ ได้ การฉีดวัคซีนเป็นวิธีที่สัตวแพทย์แนะนำ ใช้ในการป้องกันโรคสําคัญในสุนัข วัคซีนจะมีเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคได้ เมื่อสุนัขได้รับ การฉีดวัคซีนระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของสุนัขจะผลิตสารพิเศษที่เรียกว่า แอนติบอดี้ หรือ ภูมิคุ้มกันซึ่งจะทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ที่ก่อโรค ภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากวัคซีนจะค่อย ๆ ลดลง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ สุนัขต้องทำการฉีดวัคซีนตามโปรแกรม โรคสําคัญ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุนัข โรคลำไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสสำคัญ 2 ตัวที่ทำให้เกิดลำไส้อักเสบในสุนัข คือ พาร์โวไวรัส และโคโรน่าไวรัส บางครั้งสุนัขอาจติดเชื้อทั้งสองชนิดร่วมกัน ซึ่งจะทำให้ เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรง โรคนี้สามารถติดต่อได้ทางการสัมผัสเชื้อโรคชนิดนี้ที่มีอยู่ใน อุจจาระ และจะแสดงอาการหลังได้รับเชื้อประมาณ 7-10 วัน โดยมักจะมี อาการเบื่ออาหาร อาเจียน และท้องเสีย ซึ่งการแสดงอาการจะมีความรุนแรง ต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับอายุ พันธุ์ และระดับภูมิคุ้มกัน อาการของโรคนี้เกิดจากเชื้อโคโรน่าไวรัส (Coronavirus) จะเข้าไป ทำลายเซลล์ผิวของลำไส้ จนไม่สามารถย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ ตามปกติ […]