ไรในหูแมว โรคร้ายที่คุณมองข้าม
สารบัญ
ไรหู (ear mites) หรือ Otodectes cynotis เป็นปรสิตเล็กจิ๋วที่ทำให้อักเสบติดเชื้อได้ ไรหูชอบซ่อนอยู่ในรูหูแมวที่มืดและอุ่น แล้วคอยกินสะเก็ดผิวที่ตายแล้ว ไรหูพวกนี้ทำให้แมวรำคาญและคันคะเยอ เลยต้องคอยเกาหูแกรกๆ ไงล่ะ ทีนี้พอเกาบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นปัญหาอย่างผิวหนังติดเชื้อหรือใบหูบวม ต้องพาไปตรวจกับคุณหมอ ถ้าคุณเจอแล้วกำจัดไรหูให้แมวแต่เนิ่นๆ ก็จะไม่เกิดปัญหาตามมาแถมแมวยังมีความสุข สุขภาพดีอีกด้วย
รู้ได้ยังไง แมวมีไรหูหรือเปล่า
ขี้หูเยอะเกินไปไหม
พอมีไรหูแล้วเลยไปกระตุ้นให้เยื่อบุหูผลิตขี้หูออกมาเยอะเกินไป โดยขี้หูมักจะออกมาสีน้ำตาลเข้มถึงดำ จนบางครั้งทำให้ดูสกปรกเหมือนมีคราบอะไรเปรอะเปื้อน
- ถ้าแมวสุขภาพดีจะมีขี้หูไม่มากนัก ถ้าคุณเห็นอะไรเหมือนผงกาแฟหรือสะเก็ดดำๆ แปลว่าแมวอาจมีปัญหาเรื่องหู
- ที่หูแมวผลิตขี้หูออกมาก็เพื่อป้องกันไม่ให้ไรหูแพร่กระจาย
- คุณอาจได้กลิ่นตุๆ โชยออกมาด้วย
แมวชอบเกาหรือสะบัดหัวหรือเปล่า
ไรหูน่ะทำให้แมวรำคาญน่าดู เลยเอาแค่เกาหรือแคะหูซ้ำๆ ด้วยเท้าหลัง และ/หรือชอบสะบัดหัวบ่อยๆ
- เล็บแมวอาจไปข่วนผิวได้จนทำให้แสบหรือเลือดออก ถ้าหนักหน่อยก็ติดเชื้อแบคทีเรีย
- แมวที่มีไรหูนานๆ อาจพัฒนาไปเป็นติ่งเนื้อจากการอักเสบ (inflammatory polyps) ในรูหู หรือตุ่มเลือด (lood blisters) ที่ใบหู เพราะแมวคอยเกาหรือถูไถอยู่ตลอด
- นอกจากนี้หูชั้นนอกของแมวอาจอักเสบจนเป็นหนองขึ้นมา หรือแก้วหูทะลุได้ เป็นผลให้แมวมีปัญหาเรื่องการทรงตัวและอื่นๆ แบบนี้ต้องหาหมอลูกเดียว
สังเกตลักษณะท่าทางของแมว
แมวที่มีไรหูมักจะเอียงคออยู่เสมอ แต่โดยรวมก็เป็นสัญญาณบอกว่าแมวคันหรือไม่สบายหูนั่นแหละ ไม่ว่าจะมีไรหูหรือไม่ก็ตาม
- แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะอะไร ถ้าแมวของคุณชอบเอียงคอบ่อยๆ ก็น่าจะลองพาไปเช็คกับคุณหมอดูเหมือนกัน
ตรวจร่างกายสัตว์เลี้ยงตัวอื่นด้วย
ถ้าคุณมีสัตว์เลี้ยงมากกว่า 1 ตัว แล้วสงสัยว่าตัวใดตัวหนึ่งอาจมีไรหู ก็จับตรวจหูให้หมดทุกตัวนั่นแหละ เพราะไรหูนั้นแพร่ง่ายมากโดยเฉพาะถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณกินอยู่รวมกัน
- ถ้าคุณรักษาแต่ตัวที่มีไรหูละก็ เป็นไปได้มากว่าตัวอื่นก็ (แอบ) มีแต่ไม่แสดงอาการ ที่นี้ก็กลายเป็นแหล่งเพาะไรเดินได้พร้อมติดกันอีกรอบ
- ถ้าตัวหนึ่งมีไรหู วิธีที่ดีที่สุดก็คือจับตรวจรักษาให้หมดทุกตัว จะได้ไม่เสี่ยง
พาแมวไปหาหมอ
ถ้าแมวมีอาการใดก็ตามที่เรากล่าวมา ให้พาไปตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์ คุณหมอจะตรวจวินิจฉัยแมวคุณด้วยหลายวิธีด้วยกัน
- คุณหมอจะตรวจในหูด้วยเครื่องตรวจที่เรียกว่า auroscope เป็นอุปกรณ์หน้าตาเหมือนไฟฉายพร้อมแว่นขยายใช้ส่องดูในรูหูลึกๆ ถ้ามีไรตัวเล็กๆ สีขาวคุณหมอก็น่าจะเห็นได้ทัน ก่อนที่มันจะหนีแสงไฟจาก auroscope ไปซะก่อน
- บางทีคุณหมออาจเก็บตัวอย่างขี้หูของแมวด้วยสำลีก้อน แล้วเอาไปป้ายแผ่นสไลด์เพื่อส่องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ถ้าส่องดูแบบนี้ไรจะไปไหนเสีย เห็นได้ชัดแจ๋วเลยล่ะ
- ก่อนรักษา คุณหมอจะตรวจแก้วหูร่วมด้วยให้แน่ใจว่าไม่ได้ฉีกขาดหรือทะลุ เพราะแก้วหูถือเป็นปราการด่านสำคัญที่คอยป้องกันไม่ให้ยาหยอดหูไหลเข้าไปในหูชั้นกลาง ไม่งั้นอาจส่งผลต่อการทรงตัวของแมวได้
วิธีใช้ยาหยอดไรหูอย่างถูกต้อง
ขั้นตอนที่ 1 : อุ้มแมวไว้บนตัก ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้เตรียมผ้าขนหนูหรือผ้าเช็ดตัวมาห่อตัวของแมวไว้ เพื่อป้องกันการข่วนหรือดิ้นในระหว่างหยอดยา ทั้งนี้ถ้าหากมีคนช่วยในการหยอดยาก็สามารถแบ่งหน้าที่กันได้ โดยให้หนึ่งคนหยอดและอีกคนอุ้มน้องแมวไว้ ทุกอย่างจะได้ง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่ 2 : จับขวดยาโดยการใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ จากนั้นจับกรามน้องแมวเอาไว้ เพื่อให้ศีรษะของเขานิ่ง ไม่ส่ายหัวหรือขยับหัวในระหว่างหยอด
ขั้นตอนที่ 3 : เปิดช่องหูของแมวให้กว้าง
ขั้นตอนที่ 4 : หยอดยาลงไปในหูในปริมาณที่ผู้ผลิตยาแนะนำ
ขั้นตอนที่ 5 : ค่อย ๆ นวดใบหูอย่างเบามือมากที่สุด เพราะโดยนิสัยของแมวจะไม่ค่อยชอบให้ทำแบบนี้สักเท่าไหร่ ดังนั้นทาสแมวจะต้องใจเย็นในขั้นตอนนี้สักเล็กน้อย
ขั้นตอนที่ 6 : เมื่อนวดเสร็จแล้ว ก็ปล่อยให้เขาสะบัดหัวตามปกติ โดยหากมีขี้หูหลุดออกมา ก็นำทิชชู่หรือสำลีมาเช็ดให้สะอาด เพียงเท่านี้ก็เสร็จขั้นตอนการหยอดแล้ว
ป้องกันไม่ให้กลับไปมีไรหูอีก
รักษาแมวที่คุณเลี้ยงไว้ทั้งหมดด้วย selamectin. Selamectin เป็นยาหยดสำหรับกำจัดปรสิตทั้งหลายได้อย่างเห็นผลทั้งกับหมาและแมว ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของทั้งไรหู หมัด พยาธิหนอนหัวใจ ไปจนถึงปรสิตในลำไส้บางชนิด ถ้าคุณเลี้ยงแมวไว้หลายตัว ให้ใช้หยดยา selamectin ป้องกันปรสิตให้แมวทุกตัว ยี่ห้อที่นิยมกันทั้งที่เมืองนอกและเมืองไทยก็คือ Revolution นั่นเอง
- Selamectin จะช่วยป้องกันไม่ให้แมวคุณกลับไปมีไรหูอีก รวมถึงป้องกันไม่ให้ติดไปที่แมวตัวอื่นๆ ด้วย
- Selamectin นิยมใช้หยดบนคอของแมว ห้ามเอาหยดใส่หูเด็ดขาด
ถ้าหมาเป็นต้องไปหาหมอ
Selamectin ไม่รับประกันว่าใช้รักษาไรหูในหมาได้ เพราะงั้นถ้าคุณเลี้ยงหมาแล้วสงสัยว่าอาจติดไรหูมาจากแมว ก็รีบพาไปหาหมอกันไว้ก่อนเลย
ปกป้องอุ้งเท้าของแมว
ให้คุณพ่น fipronil ที่อุ้งเท้าหลังของแมว เป็นยาใช้ภายนอกที่กำจัดเห็บ หมัด เหา แล้วก็ปรสิตอื่นๆ ได้ ใช้วิธีนี้แล้วกำจัดไรที่ลามไปติดอยู่ตามขนแมว (เพราะแมวเกา) ได้แบบเห็นผล
- เป็นการยับยั้งไม่ให้แมวกลับไปมีไรอีก เพราะถึงจะสะอาดแล้ว แต่เท้าแมวที่ใช้เกาหูอาจมีไรติดอยู่ได้
- Fipronil นั้นพบได้ในยาหลายตัว เช่น Frontline, Effipro, Barricade แล้วก็ EasySpot ลองปรึกษาคุณหมอดูก่อนว่าควรใช้ตัวไหนดี และหาซื้อได้ที่ไหน
เคล็ดลับ
- อย่าเครียดเกิน ไรหูติดต่อไปที่หูคุณไม่ได้หรอก
- อย่างที่บอกว่าคุณใช้ยาหยดหลังคออย่าง selamectin กำจัดไรหูได้ จะได้ป้องกันไม่ให้แมวกลับไปมีไรหูอีก พอคุณหยด selamectin ที่หลังคอของแมวแล้ว ยาก็จะซึมเข้าไปในผิวหนัง ไปจนถึงกระแสเลือด แล้วไหลเวียนไปในรูหูเพื่อกำจัดไรหูที่คอยกินเศษซากผิวหนังที่ตายแล้ว หยดแค่ครั้งเดียวก็เห็นผลแล้ว วิธีนี้สะดวกก็จริง แต่บางทีก็ต้องใช้ยาหยอดหูแทน เพราะดีกว่าตรงที่แก้อักเสบและมีตัวยาปฏิชีวนะช่วยป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
คำเตือน
- ถ้าแมวมีไรหูแล้วไม่รีบรักษาอาจลุกลามรุนแรง จนหูบาดเจ็บหรือแก้วหูทะลุ แถมไรหูยังแพร่กระจายไปยังแมวหรือหมาตัวอื่นได้ง่าย เพราะฉะนั้นสำคัญมากว่าคุณต้องรักษาทีเดียวทั้งหมดทุกตัว
- ยาตามร้านขายยานั้นไม่ค่อยเห็นผลเท่ายาของหมอ แถมบางทีก็อันตรายต่อแมว อาจถึงขั้นเส้นประสาทเสียหายได้
บทความน่าสนใจ ทำความสะอาดหูน้องแมว ให้สะอาดใสแจ๋ว
อ้างอิงข้อมูลจาก