10 สายพันธุ์แมวที่ทาสมือใหม่ควรรู้
สารบัญ
หากคุณอยากเลี้ยงแมวแต่ไม่รู้ว่าสายพันธุ์ไหนที่เหมาะกับคุณและครอบครัว ใช่หรือเปล่า? มาดูแหล่งข้อมูลสายพันธุ์ของเรา ที่จะทำให้คุณเข้าใจความแตกต่างของแต่ละสายพันธุ์ และช่วยเลือกสายพันธุ์ที่เข้ากับคุณให้ได้มากที่สุด
สายพันธุ์แมวคืออะไรและมีความสำคัญกับผู้เลี้ยงแมวอย่างไร?
คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าแมวมีทั้งหมดกี่สายพันธุ์? หากคุณชอบอยู่กับแมวเหมียวตัวน้อยแสนน่ารัก คุณควรรู้ว่ามีแมวหลากหลายสายพันธุ์ทั่วโลก และน้องแมวแต่ละตัวทั่วโลกไม่ได้มีลักษณะทางกายภาพหรือพฤติกรรมที่เหมือนกัน หรือคล้ายคลึงกันทั้งหมด
ลักษณะของเจ้าเหมียวจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ โดยทั่วไปพันธุ์ทั้งหมดจะมีลักษณะเฉพาะตัว ทั้งทางกายภาพ ตลอดจนบุคลิกภาพและความชอบ การรับรู้ถึงสายพันธุ์ของน้องแมว จะช่วยให้เราเข้าใจลักษณะนิสัยและความต้องการของพวกเค้าได้ดีขึ้น รวมถึงดูแลได้อย่างเหมาะสมเพื่อให้พวกเค้ามีชีวิตที่ยืนยาวและมีความสุขในทุกวัน
- สำหรับทาสแมวมือใหม่ควรเรียนรู้เกี่ยวกับพันธุ์ทั้งหมดก่อนทำการรับเลี้ยง เพื่อทำความเข้าใจและตระหนักถึงบทบาทความรับผิดชอบที่เราต้องมีต่อน้องแมวพันธุ์ใดพันธุ์หนึ่ง
ลักษณะพันธุ์แบบใดที่ควรใช้พิจารณาก่อนการรับเลี้ยง?
การเลี้ยงน้องแมวถือเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ยิ่งถ้าคุณเป็นทาสแมวมือใหม่ก็คงรู้สึกตื่นเต้นมากอย่างแน่นอนจริงอยู่ที่การมีน้องแมวมาอยู่ด้วยเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบมากมาย โดยเฉพาะถ้าคุณเลือกรับเลี้ยงลูกแมวตัวน้อย
แม้ว่าพันธุ์แมวทั้งหมดจะเลี้ยงค่อนข้างง่าย การดูแลไม่มากเท่าสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น แต่น้องแมวส่วนใหญ่ยังต้องการความรักและการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ดูแลพวกเค้าได้อย่างเหมาะสมคือการทำความเข้าใจพันธุ์แมวทั้งหมด ทั้งเรื่องลักษณะนิสัย ความต้องการเฉพาะของแต่ละพันธุ์ และวิธีการให้อาหาร
- สำหรับสายพันธุ์แมวที่เป็นมิตรและดูแลง่าย เช่น บริติช ชอร์ตแฮร์ เบอร์มีส อะบิสซิเนียน และสก็อตติช โฟลด์ พวกเค้าถือเป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณเป็นทาสแมวมือใหม่
10 สายพันธุ์แมว
1. เอ็กโซติกขนสั้น (Exotic Shorthair)
ถ้าคุณไม่ค่อยมีเวลา แต่อยากจะเลี้ยงและใช้ชีวิตร่วมกับแมวที่มีหน้าตาเหมือนกับ “นักแสดงหนัง” แล้วล่ะก็ น้องเหมียวเอ็กโซติกขนสั้นจะตอบโจทย์คุณแน่นอน! ในมุมมองของผู้ที่ชื่นชมแมว เอ็กโซติกขนสั้นนั้น พวกมันเป็นที่รู้จักกันในฐานะ “แมวเปอร์เซียสะดวกเลี้ยง” ด้วยความที่พวกมันมีขนคล้ายกำมะหยี่ที่ไม่ต้องดูแลอะไรมากนักและยังมีหลากหลายสีที่สวยงามอีกด้วย นอกจากนี้พวกมันยังมีลักษณะรูปร่างน่ารักเหมือนกับลูกแมว ซึ่งถือได้ว่าเป็นคุณสมบัติที่ผู้คนชื่นชอบมากที่สุดอย่างหนึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้พวกมันยังดวงตากลมโต ใบหูขนาดเล็ก ใบหน้าเรียบแบน และจมูกรั้นขนาดเล็กซึ่งทำให้หน้าของพวกมันดูอ่อนหวานแสนจะเย้ายวนใจเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่พวกมันมีเป็นสัตว์ขี้เล่น ชอบอยากรู้อยากเห็น และมีนิสัยแบบสบายๆ น้องเหมียวเอ็กโซติกขนสั้นจึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะเลี้ยงเอาไว้ในบ้าน แต่ แม้ว่าพวกมันจะชอบอยู่ร่วมกับผู้คน แต่บางครั้งก็ชอบอยู่ตัวคนเดียวเหมือนกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเลยสำหรับคนชอบเลี้ยงสัตว์ที่ไม่ค่อยมีเวลาว่างเท่าไหร่ ดังนั้นแมวสายพันธุ์เอ็กโซติกขนสั้นจึงเป็นแมวที่สามารถปรับตัวได้ดีแล้วพร้อมที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมใดๆก็ได้ โดยเฉพาะถ้ามันได้อยู่ในบ้านอย่างสุขสบายอยู่แล้ว
2. หางกุดญี่ปุ่น (Japanese Bobtail)
ตามบันทึกในช่วงยุคแรกเริ่มนั้น ประเทศญี่ปุ่นเริ่มมีแมวเลี้ยงซึ่งได้รับจากประเทศจีนหรือเกาหลีมาอย่างน้อยเมื่อ 1,000 ปีที่แล้ว แมวหางกุดญี่ปุ่นนั้นมีปรากฏในประเทศญี่ปุ่นมาแล้วหลายศตวรรษ และพวกมันไปปรากฏตัวตามภาพวาดหรือลายพิมพ์ต่างๆมากมาย แมวหางกุดญี่ปุ่นขนยาวนั้นสามารถพบได้ในประเทศแถบตะวันออกมาแล้วหลายศตวรรษเช่นเดียวกับแมวหางกุดญี่ปุ่นขนสั้น แมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวที่แข็งแรง สุขภาพดี และมักจะมีลูกครอกละ 3-4 ตัว โดยที่ลูกๆของพวกมันที่มักจะมีขนาดตัวใหญ่หากเทียบแมวเกิดใหม่สายพันธุ์อื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับแมวสายพันธุ์อื่นๆแล้ว เจ้าเหมียวหางกุดญี่ปุ่นในช่วงแรกๆ จะกระตือรือร้น ชอบเดินไปเดินมา หรือแม้แต่ทำให้เจ้าของปวดหัวไปตามๆกัน ลูกแมวที่เกิดมานั้นก็ไม่ใช่ว่าไม่มีหางนะ แต่ก็ไม่ถึงกับมีหางซะทีเดียว โดยปกติแล้ว เจ้าลูกแมวเหล่านี้จะคล่องแคล่ว เฉลียวฉลาด และก็ช่างส่งเสียง ซึ่งพวกมันมีเสียงที่แสนจะอ่อนนุ่มและยังมีหลายโทนอีก ว่ากันว่ามีเจ้าของบางคนสาบานเลยว่า เจ้าลูกเหมียวเหล่านั้นน่ะ ร้องเพลงได้ นอกจากนี้ แมวสายพันธุ์นี้ยังเหมือนกับ ”สุนัข” ในบางเรื่องอีกด้วย อย่างเช่น ชอบใช้ปากคาบสิ่งของ เล่นเกมส์ไล่จับกับเจ้าของ แล้วยังชอบโผเข้าหาทุกอย่างที่ขวางหน้า ซึ่งก็น่าตื่นเต้นเวลาเห็นเจ้าเหมียวเหล่านี้จริงๆ แมวสายพันธุ์นี้ไม่ค่อยตกใจง่ายๆ และยังปรับตัวเข้าหาสุนัขและสัตว์อื่นๆ และยังเข้ากับเด็กๆได้ดีเป็นพิเศษอีกด้วย ปกติแล้วนักผสมพันธุ์แมวจะเริ่มขายลูกแมวสายพันธุ์นี้ตอนที่พวกมันมีอายุระหว่าง 12-16 สัปดาห์ หลังจากพ้น 12 สัปดาห์ไปแล้ว ลูกแมวควรได้รับการฉีดยาขั้นพื้นฐานให้เรียบร้อย และควรได้รับการพัฒนาด้านร่างกายและทักษะการเข้าสังคมสำหรับการย้ายไปอยู่บ้านใหม่อย่างสม่ำเสมอ สำหรับการทำให้น้องเหมียวสายพันธุ์นี้มีชีวิตที่ยืนยาว สุขภาพดี และมีความสุขนั้น ก็หมั่นให้มันเล่นของเล่นต่างๆ มีที่ลับเล็บให้มันใช้ และก็มี “ตัวคุณ” ไว้ให้มันอ้อนนั่นแหล่ะ
3. โคราช (Korat)
แมวโคราชนั้นถือเป็นแมวที่เก่าแก่ที่สุดในโลกสายพันธุ์หนึ่ง และเป็นที่รู้จักกันในประเทศไทยว่า “แมวสีสวาด” (แมวศักดิ์สิทธ์ที่นำมาซึ่งโชคลาภ) ขนที่มีลวดลายสีเงินของแมวโคราชนั้นเป็นที่เลื่องลือในตำนานมากเพราะเชื่อกันว่ามันสื่อถึงความมั่งคั่งสำหรับบรรดาพ่อค้า เมฆฝนสำหรับบรรดาชาวไร่ชาวนา และชีวิตสมรสที่มีความสุขสำหรับบรรดาเจ้าสาว ในประเทศไทยนั้น มีธรรมเนียมการมอบแมวโคราชสองตัวให้กับเจ้าสาวในวันแต่งงานด้วย นอกจากทวีปเอเชียแล้ว แมวสายพันธุ์นี้ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในช่วงต้นยุค 50 ก่อนที่จะเดินทางไปถึงประเทศอังกฤษในช่วงยุค 70 แม้แต่ทุกๆวันนี้ น้องเหมียวสีสวาดก็ยังได้เป็นสัตว์เลี้ยงตัวโปรดในนานาประเทศของทั้งสองฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกเลยทีเดียว แมวโคราชนั้นมีขนสีฟ้าสวยงาม ดวงตาของพวกมันมีขนาดใหญ่ โดดเด่น มีสีเขียวเรืองแสง หรือสีเขียวอมทอง ที่ลุกวาวและสื่ออารมณ์ชัดเจน น้องเหมียวสีสวาดยังเป็นสัตว์ที่เฉลียวฉลาด และฝึกให้ไปเอาของเล่น หรือแม้แต่เดินโดยมีเชือกจูงได้ง่ายอีกด้วย แต่แมวสายพันธุ์นี้ก็จะแสดงให้คุณรับรู้ชัดเจนนะว่า มันชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง โดยเฉพาะเวลาที่คุณรับรู้ความต้องการของมันช้า แมวโคราชนั้นเป็นแมวที่สวยงาม และมีนิสัยอ่อนโยนและเฉลียวฉลาดโดยธรรมชาติ ซึ่งทำให้มันสามารถสร้างความผูกพันกับเจ้าของได้อย่างใกล้ชิดเลยล่ะ ถึงแม้ว่า แมวสายพันธุ์นี้จะเหมาะกับแทบทุกบ้าน แต่เจ้าของก็ควรตระหนักว่าน้องเหมียวสายพันธุ์นี้ก็ต้องการ พื้นที่ส่วนตัว บ้างเป็นบางเวลา ดังนั้นก็ควรมีที่เงียบๆให้มันได้ “หลีกหนีจากความวุ่นวายต่างๆ” บ้างนะ
4. ชินชิลล่า (Chinchilla)
น้องเหมียวเปอร์เซียแสนหรูนั้นปกติจะเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของบรรดาผู้รักแมวมากมาย แต่แมวชินชิลล่านั้นเป็นแมวที่สวยงามโดดเด่นจากขนสีเงินเงางาม ซึ่งทำให้มันแตกต่างจากแมวเปอร์เซียทั่วไปที่ดั้งเดิมแล้วมาจากประเทศตุรกีและมักมีขนหนาสีขาว น้องเหมียวชินชิลล่านั้นเป็นแมวขนาดใหญ่ที่อบอุ่น เป็นมิตรกับมนุษย์ มีรูปร่างเป็นทรงคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัส พร้อมใบหน้าแบนทรงกลม และใบหูขนาดเล็ก พวกมันมีดวงตาสีเขียวสะท้อนแสงคล้ายกับลวดลายบนตัวมัน นอกจากนี้ ขนของมันยังมีความงดงามคล้ายใยไหม และยังมีหางเป็นพู่ๆที่โดดเด่นอีกด้วย โดยภาพรวมแล้ว แมวสายพันธุ์นี้มีสีขาวพร้อมลายสีดำที่ทำให้ตัวมันดูเป็นประกาย หนึ่งในน้องเหมียวชินชิลล่าที่มีชื่อเสียงที่สุดนั้นเป็นที่รู้จักกันว่า Silver Lambkin และยังเชื่อกันว่าแมวตัวดังกล่าวนี้เป็นต้นกำเนิดของโทนสีที่สวยงามโดดเด่นของแมวสายพันธุ์นี้ ตัวมันเองนั้นได้รับรางวัลใหญ่ๆมากมายในงานแสดงที่ Crystal Palace ในกรุงลอนดอนเมื่อปี 1888 เจ้าเหมียวแสนสวยตัวนี้มาจากสหรัฐอเมริกาและประเทศอังกฤษ พวกมันมีนิสัยชอบเข้าหาคนอื่นมากกว่าแมวเปอร์เซียพันธุ์อื่นๆ และพวกมันยังมีเสียงที่ไพเราะอีกด้วย โดยปกติแล้วน้องเหมียวชินชิลล่าสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆที่พวกมันไปอยู่ได้อย่างรวดเร็วอีก และมีนิสัยแบบชิลๆ สบายๆ ดังนั้นแมวพันธุ์นี้จึงเหมาะมากสำหรับครอบครัวที่มีเวลาแปรงหรือหวีขนให้มันเป็นประจำทุกวันเลยล่ะ
5. บาหลี (Balinese)
แมวบาหลีเป็นแมวที่กระตือรือร้นและ “ช่างพูดช่างคุย” เป็นอย่างยิ่ง และยังชอบเดินตามเจ้าของพร้อมคอยแจกความรักให้กับคนที่พบเจอเวลามันเดินไปไหนต่อไหนอีกด้วย! น้องเหมียวขนยาวพันธุ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลแมวที่มาจากประเทศทางฝั่งตะวันออก และได้รับการพัฒนามาจากลูกแมวพันธุ์ขนยาวที่พบตามครอกลูกแมวสยามในสหรัฐอเมริกา รูปร่างและการเคลื่อนไหวที่สง่างามของน้องเหมียวสายพันธุ์นี้เป็นตัวจุดประกายที่มาของชื่อสายพันธุ์พวกมัน นั่นก็เพราะว่ามันทำให้ผู้ที่เพาะเลี้ยงมันนั้นนึกถึงนักเต้นรำท้องถิ่นที่อยู่บนเกาะบาหลีนั่นเอง แมวบาหลีนั้นเป็นแมวขนาดกลางที่มีรูปร่างยาวเรียวเหมือนกับแมวสยาม แต่ร่างผอมยาวของมันนั้นถูกปกคลุมไปด้วยขนยาวนุ่มที่ถึงแม้ว่าตัวมันจะยาว แต่ก็ไม่จำเป็นต้องตัดแต่งขนอะไรมากเหมือนกับแมวสายพันธุ์ที่มีขนยาว นอกจากนี้ ที่จริงแล้ว ขนที่สวยงามและหางที่ยาวปุกปุยของมันแทบจะเป็นเพียงแค่สิ่งเดียวที่ทำให้มันแตกต่างไปจากแมวสยาม สำหรับตาของมันนั้นมีรูปร่างคล้ายเมล็ดอัลมอนด์สีฟ้า ส่วนลำตัวของมันอาจจะมีลวดลายสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สีฟ้า ม่วงแดง และช็อกโกแลต สำหรับคนที่อยากจะเลี้ยงแมวที่กระตือรือร้นตลอดเวลานั้น แมวบาหลีเป็นทางเลือกที่ใช่เลยสำหรับคุณ เพราะเป็นแมวที่มีชีวิตชีวา ขี้เล่น สวยงามและเป็นเพื่อนเล่นที่ชื่นชอบการอ้อนหรือนั่งอยู่บนตักของเจ้าของอย่างที่สุด
6. อะบิสซิเนียน (Abyssinian)
น้องเหมียวรูปร่างเงางามสายพันธุ์นี้อาจดูเหมือนเสือภูเขาขนาดย่อมๆในเวอร์ชั่นที่มีขนสีน้ำตาลแดงแวววาว ซึ่งหากคุณกำลังมองหาสัตว์เลี้ยงที่ดูสง่าผ่าเผยแล้วล่ะก็ คุณน่าจะสนใจเจ้าเหมียวอะบิสซิเนียนซึ่งว่ากันว่ามีศักดิ์เป็นถึงขุนนางชั้นสูงเชียวล่ะ นอกจากมันจะเป็นแมวเลี้ยงสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดสายพันธุ์หนึ่งแล้ว ยังเชื่อกันว่าอะบิสซิเนียนนั้นเป็นแมวที่สืบสายพันธุ์มาจากแมวศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์ ซึ่งมีจารึกตามภาพวาดและรูปปั้นประติมากรรมต่างๆของชาวอียิปต์ แมวอะบิสซิเนียนในปัจจุบันนั้นได้รับการผสมพันธุ์อย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้สี ลวดลาย และประเภทตามที่ต้องการ พวกมันมีลำตัวที่เรียวยาว ดูเหมาะสมกับดวงตาขนาดใหญ่และขนปกคลุมร่างกายที่ดูแข็งแรง ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดลักษณะหนึ่งของแมวสายพันธุ์นี้คือ ดวงตาของมันที่มีรูปร่างคล้ายคลึงกับเมล็ดอัลมอนด์ที่พร้อมจะสะกดทุกสายตาที่จ้องมองมัน ยังไม่เพียงเท่านั้น น้องเหมียวอะบิสซิเนียนยังมีนิสัยคล้ายคลึงกับเสือดำเวลาเล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกับคนอีกด้วย นอกจากนี้แมวอะบิสซิเนียนยังมีท่าทางที่สง่างามเหมือนกับนักเต้นรำ และยังเป็นแมวที่รักเจ้าของและมีนิสัยอ่อนโยนอีกด้วย ตราบใดที่มันได้รับการดูแลเป็นอย่างดีแล้วล่ะก็ แมวสายพันธุ์นี้ก็จะเป็นสัตว์เลี้ยงที่สุดวิเศษ โดยปกติแล้วแมวสายพันธุ์นี้ไม่ค่อยชอบส่งเสียงนัก แต่จะชอบปีนป่ายมากกว่า ดังนั้นคุณต้องคำนึงถึงเรื่องนี้เวลาเลี้ยงด้วย และที่ควรระวังคือ น้องเหมียวสายพันธุ์นี้ไม่ชอบถูกจับใส่กรง ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการจับมันใส่กรงเลยล่ะ
7. เตอร์กิชแวน (Turkish van)
แมวเตอร์กิชแวนนั้นเป็นแมวสายพันธุ์โบราณที่หายากและมีจุดเด่นที่ชื่นชอบน้ำเป็นพิเศษ แมวเตอร์กิชแวนหรือ “แมวว่ายน้ำ” นั้นมีถิ่นกำเนิดจากบริเวณรอบๆทะเลสาบแวนในประเทศตุรกี โดยพวกมันได้พัฒนาทักษะการว่ายน้ำ เพื่อที่จะว่ายลงไปในบริเวณอ่าวเพื่อไปอ้อนขออาหารจากเรือตกปลาที่กำลังมาเทียบฝั่ง ทุกๆวันนี้ เราสามารถพบแมวสายพันธุ์นี้จำนวนมากได้ในประเทศอิหร่าน อิรัก ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของสหภาพโซเวียต และตุรกีตะวันออก พวกมันถูกนำไปที่ประเทศอังกฤษในปี 1955 และถูกเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เป็น เตอร์กิชแวน เพื่อป้องกันไม่ให้สับสนกับแมวสายพันธุ์เตอร์กิชอังการ่า แมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวที่รูปร่างยาว กำยำ มีอุ้งเท้าที่มีขนเป็นพู่ๆ มีหัวสั้นทรงรูปลิ่มและมีจมูกตรงยาว นอกจากนี้ ด้วยความที่มันเป็นนักว่ายน้ำตัวยง ขนของมันจึงกันน้ำได้ แต่ก็ต้องได้รับการตกแต่งขนบ้าง แม้ว่าน้องเหมียวจะผลัดขนเยอะมากในช่วงฤดูร้อน แต่หางของมันก็จะสวยงามเป็นพุ่มๆไปตลอดทั้งปี นอกจากนี้พวกมันยังชื่นชอบน้ำเป็นพิเศษ และจะมาร่วมกิจกรรมครอบครัวต่างๆที่เกี่ยวกับน้ำอย่างไม่ลังเลเลย ไม่ว่าจะเป็นการล้างรถ ล้างจาน หรือแม้แต่อาบน้ำ! แม้ว่าน้องเหมียวเตอร์กิชแวนจะค่อนข้างขี้อายกับคนแปลกหน้า แต่พวกมันก็รักเจ้าของมาก พวกมันมีเสียงเบา กินได้เยอะ และมีนิสัยแบบสบายๆ ซึ่งทำให้มันปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้อย่างง่ายดาย
8. แมงซ์ (Manx)
แมวแมงซ์เป็นแมวที่ไม่มีหางและแตกต่างจากแมวเกือบทุกชนิดตรงที่มันไม่มีหางและรูปร่างโดยรวมของมันก็ค่อนข้างแตกต่างออกไปเพราะพวกมันมีขาหลังยาวกว่าแมวปกติ แมวสายพันธุ์นี้วิ่งเหมือนกับกระต่าย ซึ่งดูๆแล้วก็น่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว เหตุผลที่แมวสายพันธุ์นี้ไม่มีหางนั้นก็เนื่องมาจากยีนเด่นที่เกิดการกลายพันธุ์เมื่อนานมาแล้วซึ่งเป็นผลมาจากการที่พวกมันอาศัยอยู่แค่บนเกาะไอล์ออฟแมน (Isle of Man) ซึ่งทำให้มันเกิดการผสมพันธ์ในสายพันธุ์เดียวกันอย่างต่อเนื่อง ยีนที่เกิดการกลายพันธุ์นั้นส่งผลให้เกิดกระดูกสันหลังที่ผิดรูปผิดร่าง ซึ่งส่งผลไปถึงแมวรุ่นอื่นๆด้วย ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ แมวเหล่านั้นก็เลยสูญเสียหางไป แต่ที่เกาะไอล์ออฟแมนนั้น ผู้คนต่างมองว่าพวกมันเป็นแมวที่แสนวิเศษ แต่ก็มีความอยากรู้อยากเห็นระดับทีมชาติเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้นคนที่อาศัยอยู่บนเกาะนั้นก็ไม่ได้ถือสาอะไรเพราะพวกมันก็เป็นแมวพิเศษที่มีความเป็นเอกลักษณ์จริงๆ เจ้าแมวอารมณ์ดีเหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มย่อย ตาม “ปริมาณหาง” ที่มันมี ได้แก่ “รัมปี้ (Rumpy)” “รัมปี้ ไรเซอร์ (Rumpy-riser)” “สตัมปี้ (Stumpies)” และ “ลองจี้ (Longy)” เจ้ารัมปี้นั้น ก็คือแมวแมงซ์ที่ไม่มีหางเลย ในขณะที่เจ้ารัมปี้ไรเซอร์นั้นมีหางกระจุกเหมือนลูกบิดประตู เจ้าสตัมปี้มีหางเหมือนตอไม้ ส่วนเจ้าลองจี้นั้นมีหางที่ดูคล้ายกับแมวปกติทั่วไป แมวสายพันธุ์นี้มีร่างกายกำยำ แข็งแกร่ง มีขนสองชั้นหลายสีที่เงางาม และยังมีขนนุ่มซ้อนอยู่ข้างใต้อีกชั้นหนึ่ง แมวแมงซ์นั้นเป็นแมวที่เป็นมิตรและกระตือรือร้น เหมาะแก่การเลี้ยงไว้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง หากดูแลพวกมันได้อย่างถูกต้องแล้วล่ะก็ เหมียวแมงซ์ก็พร้อมจะมอบความรักกลับคืนให้เจ้าของของพวกมันหลายเท่าเลยทีเดียว ถ้าคุณกำลังมองหาแมวอยู่ แล้วเผลอมองข้ามสายพันธุ์นี้ไปล่ะก็ บอกได้เลยว่าคุณพลาดครั้งใหญ่แล้วล่ะ
9. โซมาลี (Somali cat)
แมวโซมาลีนั้นเป็นแมวขนาดกลางที่สง่างาม กระฉับกระเฉง และมีร่างกายกำยำ เพียบพร้อมด้วยขนที่สวยงามและหางฟูๆเหมือนกับหางสุนัขจิ้งจอก ปกติแล้วแมวโซมาลีจะต้องได้รับการตกแต่งขนอยู่เป็นประจำเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด แต่ลักษณะขนที่คล้ายกับใยไหมของมันนั้นจะไม่ค่อยพันกันยุ่งเหมือนกับขนของแมวเปอร์เซีย แมวโซมาลีเป็นแมวที่มีขนแบบกึ่งสั้นกึ่งยาวและมีสี่สีพื้นฐาน ได้แก่ สีน้ำตาลแดงอ่อนซินนามอน สีน้ำตาลปนเหลือง สีฟ้า และสีน้ำตาลอ่อน และมีแนวยาวเป็นสีเงิน ในขนแต่ละเส้นของมันนั้นก็จะมีลวดลายสีดำหรือน้ำตาลช็อคโกแลตซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะพัฒนาขึ้นมาเต็มที่ ลูกแมวโซมาลีนั้นจะมีขนสีเข้มตอนเกิดมาและจะมีลวดลายครบถ้วนสมบูรณ์ก็ตอนที่พวกมันมีอายุ 18 เดือน น้องเหมียวโซมาลีเป็นแมวที่น่าหลงใหลและรักสนุก มีดวงตารูปทรงถั่วอัลมอนด์ที่แสดงอารมณ์อย่างชัดเจน นอกจากพวกมันจะเป็นเพื่อนเล่นที่ดีให้กับเด็กๆแล้ว พวกมันยังขี้เล่นกระฉับกระเฉง อยากรู้อยากเห็นและชอบอยู่ร่วมกับผู้คนอีกด้วย ซึ่งโดยปกติแล้ว พวกมันมีเสียงนุ่มเบาและไม่ค่อยได้ส่งเสียงเสียเท่าไหร่
10. สฟิงซ์ (Sphynx)
แมวสฟิงซ์เป็นแมวไร้ขนเพียงสายพันธุ์เดียวในประเทศออสเตรเลีย และเป็นที่รู้จักในประเทศเม็กซิโก ฝรั่งเศสและแคนาดา แมวสฟิงซ์ในปัจจุบันนั้นถูกพัฒนามาจากแมวไร้ขนที่เกิดจากการกลายพันธุ์ในเมืองออนตาริโอ ประเทศแคนาดา เมื่อปี 1966 จริงๆแล้วเนี่ย เจ้าแมวสายพันธุ์นี้มีขน แต่ขนมันสั้นมากๆจนเหมือนหนังกลับ และขนบนใบหน้าของมันนั้นก็ได้รับการบรรยายไว้ว่า “ดูเหมือนกับผ้ากำมะหยี่แต่ให้ความรู้สึกเหมือนต้นมอส” เหมียวไร้ขนนี้เป็นแมวรูปร่างผอมเพรียวและมีหูทรงสามเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยผิวหนังบนหน้าผากที่เหี่ยวย่นและหน้าอกทรงโอ่ง หางของมันยาวและค่อยๆแคบลงไปจนถึงปลาย และไม่ใช่ทุกตัวที่จะมีหนวด แมวสฟิงซ์เป็นสัตว์ที่รักเจ้าของมากและจะเติบโตได้ดีในบ้านที่เต็มไปด้วยผู้คนและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ นอกจากนี้แมวสฟิงซ์ยังเป็นแมวสายพันธุ์เดียวที่มีต่อมเหงื่อ มันจึงไม่หอบเหมือนกับแมวหรือสุนัขตัวอื่นๆ แต่เพราะด้วยความที่พวกมันมีต่อมเหงื่อนี่แหล่ะ จึงทำให้มีของเหลวหลั่งออกมาตามผิวหนังซึ่งทำให้ผิวหนังของมันเปลี่ยนสีไป ดังนั้นจึงควรอาบน้ำให้มันบ้างเป็นบางครั้งเพื่อรักษาขนของมันให้สุขภาพดีอยู่ตลอดเวลา เจ้าเหมียวที่แสนวิเศษนี้มีรูปร่างขนาดกลางแต่ก็มีตัวค่อนข้างหนักอย่างน่าประหลาดใจถ้าเทียบกับขนาดตัวของมัน หัวของมันนั้นมีลักษณะเป็นทรงรูปลิ่ม มีโหนกแก้มและจุดที่หนวดขึ้นที่โดดเด่น ซึ่งทำให้หน้ามันดูคล้ายทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส พวกมันยังมีร่างกายที่อุ่นและนุ่ม และมีนิสัยอ่อนโยน มีชีวิตชีวา เฉลียวฉลาดและดูแลง่ายอีกด้วย และพวกมันยังฝึกฝนได้ง่าย และชอบอยู่กับบ้านที่คึกคัก มีชีวิตชีวาอยู่ตลอดเวลา
บทความน่าสนใจ แค่ดูหางก็รู้ใจน้องแมวอารมณ์ไหน
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.whiskas.co.th
https://www.purina.co.th
https://www.bbc.com