สุนัข

ปัจจุบันหลายๆ คนหันมาเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้น โดยเฉพาะสุนัข สัตว์เลี้ยงคู่ใจประจำบ้านที่มักจะสร้างสีสันและรอยยิ้มให้แก่คนในครอบครัวอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ดี การเลี้ยงสุนัขในบ้านนั้น สิ่งหนึ่งที่ผู้เลี้ยงควรให้ความสำคัญอย่างยิ่งก็คือการฝึกสอนพวกเขาให้เป็นมิตรและมีนิสัยดี

 

พฤติกรรมและปัญหาการเลี้ยงสุนัขในบ้านที่อาจเจอ

การเลี้ยงสุนัขในบ้านเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ได้ทำกิจกรรมและใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างสัตว์เลี้ยงตัวโปรดและสมาชิกภายในบ้าน แต่ด้วยสุนัขในแต่ละสายพันธุ์ที่มีลักษณะนิสัยแตกต่างกัน อาจทำให้คุณต้องพบกับพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ออกมา เช่น นิสัยที่ดุร้ายขึ้น ก้าวร้าว เห่าไม่เป็นเวลา ขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง ฯลฯ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อคุณและเพื่อนบ้าน

 

เห่าไม่หยุด

แม้สุนัขจะเห่าเพื่อใช้ในการสื่อสารก็ตาม แต่บางครั้ง ยังเป็นการแสดงออกถึงสัญญาณต่างๆ เช่น ต้องการให้เจ้าของมาเล่นด้วย หรือการเห่าเมื่อมีคนเข้ามาภายในอาณาเขตของเขา ซึ่งหากสุนัขเห่ามากจนเกินไปก็อาจไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพจิตของคุณ รวมถึงอาจมีปัญหากับเพื่อนบ้านในเรื่องเสียงรบกวนได้

 

กัดทุกอย่างที่ขวางหน้า

เมื่อสุนัขเป็นสัตว์ที่รอบรู้และมักสนใจกับสิ่งรอบข้างเสมอ ในบางครั้ง การเลี้ยงหมาในบ้านจึงอาจพบว่าพวกเขาเหล่านั้นใช้การกัดเพื่อสำรวจสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ซึ่ง อาจส่งผลให้สุนัขมีพฤติกรรมที่รุนแรง เช่น กัดทุกอย่างที่ขวางหน้าได้

 

ชอบขุดหลุม

บ่อยครั้งที่สุนัขแสดงสัญชาตญาณออกมาเองโดยไม่รู้ตัว เช่น การขุดหลุมเพื่อค้นหาสิ่งของหรือซ่อนอาหารหรือการขุดหลุมเล่น เนื่องจาก โดยธรรมชาติแล้ว สุนัขเป็นสัตว์ที่ขี้เล่น ดังนั้น การขุดหลุมจึงช่วยให้สุนัขเหล่านั้นรู้สึกสนุกขึ้น

 

ขับถ่ายไม่เป็นที่

หลายคนคงประสบปัญหาไม่น้อยเมื่อสุนัขของคุณขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทางจนต้องมานั่งเก็บกวาดและทำความสะอาดกลิ่นไม่พึงประสงค์รวมถึงคราบสกปรกที่เลอะกระจัดกระจายไปทั่วบ้าน

 

ขอของกิน

การขอของกิน เป็นหนึ่งในพฤติกรรมการเลี้ยงหมาในบ้านที่มักแสดงออกด้วยการเห่า การส่งสายตา หรือการส่งเสียงครางในลำคอ หรือแม้กระทั่งการแสดงออกถึงนิสัยที่ดุร้ายได้

 

สุนัขต้องอายุเท่าไหร่ ถึงจะนำไปเลี้ยงได้?

แน่นอนว่าก่อนจะเตรียมตัวเลี้ยงสุนัขทุกคนจะต้องผ่านช่วงเวลาของการตัดสินใจว่า จะเลือกสุนัขตัวไหนมาเลี้ยง (ในบทความนี้ โจโจ้เฮ้าขอข้ามเรื่องของสายพันธุ์สุนัขไปก่อนะคะ) ที่น่าสนใจกว่าเรื่องของสายพันธุ์ก็คืออายุของสุนัขที่จำมาเลี้ยงนั่นเอง สุนัขควรมีอายุเท่าไหร่ดี? หลายๆคนที่ไม่เคยศึกษาเรื่องนี้อาจจะคิดว่าเอามาตั้งแต่ตอนเด็กเลยดีกว่า จะได้ฝึกง่ายๆ จริงๆแล้วสุนัขที่ควรนำมาเลี้ยงควรมีอายุประมาณ 3 เดือนขึ้นไป ในช่วง 1-3 เดือนแรกควรจะปล่อยให้แม่สุนัขเป็นคนสอนการใช้ชีวิตให้กับลูกสุนัขก่อน หลังจาดนั้นจึงค่อยนำลูกสุนัขมาเลี้ยง ไม่มีใครสอนการใช้ช้วิตให้กับลูกสุนัขได้ดีไปกว่าแม่ของเขาเองอย่างแน่นอนค่ะ เพราะฉนั้นหากใครที่โดนฟาร์มสุนัขคะยั้นคะยอให้ซื้อลูกสุนัขแรกเกิดที่มีอายุไม่ถึงสามเดือนมาเลี้ยง อย่าเผลอรับมาเชียวนะ

เริ่มต้นการเลี้ยงสุนัขในบ้านต้องเตรียมอะไรบ้าง

สำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นเลี้ยงหมาในบ้าน การเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย อุปกรณ์ต่างๆ ที่จะช่วยให้สุนัขของคุณสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานที่และคนในครอบครัวด้วย

  1. เลือกพันธุ์สุนัขให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์

ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแต่ละคนที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกพันธุ์สุนัขให้เหมาะสมกับสไตล์ของตนเองจะทำให้การเลี้ยงหมาในบ้านเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เช่น หากคุณชื่นชอบการออกกำลังกาย และต้องการสัตว์เลี้ยงรู้ใจไปวิ่งออกกำลังกายด้วย การเลือกน้องหมาที่มีขนาดใหญ่ และเอเนอร์จีเยอะ เช่น ไซบีเรียนฮัสกี หรือโกลเดนรีทรีฟเวอร์อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับคุณ

  1. เตรียมพื้นที่ต้อนรับน้องหมา

อีกหนึ่งวิธีการเลี้ยงสุนัขในบ้านที่ขาดไม่ได้ นั่นคือต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับพวกเขาด้วย เพราะสุนัขแต่ละตัวมีสายพันธุ์และขนาดที่แตกต่างกัน การมีพื้นที่เหมาะสมจะทำให้สุนัขของคุณมีพื้นที่วิ่งเล่น และไม่เกิดความเครียด

อย่างเช่น ไซบีเรียนฮัสกีที่ต้องการพื้นที่ค่อนข้างกว้าง และต้องอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็น คุณจึงควรสำรวจภายในบ้านก่อนว่าหากรับพวกเขามาเลี้ยงแล้วจะสามารถเตรียมพื้นที่ให้อย่างเหมาะสมได้หรือไม่ มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้ เช่น เกิดความเครียดสะสม ไม่ร่าเริง ไม่ทานอาหาร ขนหลุดร่วง ฯลฯ

  1. เตรียมอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการเลี้ยงสุนัขนอกจากสถานที่แล้ว การมีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่น ปลอกคอ สายจูง ที่นอน และอื่นๆ จะช่วยให้การเลี้ยงสุนัขในบ้านเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายอีกด้วย

ปลอกคอ

หนึ่งในวิธีการเลี้ยงดูสุนัขในบ้านที่จะช่วยในการฝึกสอนและควบคุมสุนัขได้ด้วย อย่างไรก็ตาม อาจต้องคำนึงถึงขนาดและประเภทปลอกคอที่เหมาะสมกับสุนัขของคุณด้วยเช่นกัน เพราะในบางสายพันธุ์อาจจะต้องใช้ปลอกสวมลำตัว โดยแนะนำว่าให้สอบถามกับทางผู้จัดจำหน่าย หรือสัตวแพทย์ถึงความเหมาะสมจะดีที่สุด

สายจูง

เพราะน้องหมานั้นชื่นชอบการเดินเล่นมากๆ จึงต้องมีสายจูงเพื่อเตรียมพาพวกเขาออกไปนอกบ้านในทุกๆ วันเสมอ ซึ่งการใส่สายจูงสุนัขจะช่วยป้องกันอันตรายในด้านต่างๆ ได้ เช่น การควบคุมสุนัขไม่ให้ทำพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ อย่างการเดินไปคาบสิ่งของ การวิ่งออกไปที่ถนน หรือการวิ่งไปหาคนอื่น เป็นต้น

ที่นอน

ไม่ว่าคนหรือสุนัข การนอนหลับพักผ่อนยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ ด้วยเหตุนั้น การเตรียมที่นอนให้มีขนาดและพื้นที่เหมาะกับสุนัขนั้น จะช่วยให้สุนัขของคุณผ่อนคลายและรู้สึกอบอุ่นขณะนอนหลับ

คอกกั้น

คอกกั้นสุนัขนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะทำให้สุนัขของคุณมีพื้นที่ส่วนตัวแล้ว ยังเป็นการสร้างระเบียบวินัยในการกินและขับถ่ายด้วย ดังนั้น หากใครกำลังมองหาวิธีการเลี้ยงสุนัขในบ้านอยู่ละก็ คอกกั้นเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ควรมีอย่างยิ่ง

ชามข้าว

ขณะที่สุนัขกำลังรับประทานอาหารนั้น ร่างกายของเขาจำเป็นต้องมีการก้มหรือการยืดตัวในบางเวลา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ต่อสุขภาพของสุนัข ด้วยเหตุนั้น การใช้ชามข้าวจะช่วยปรับเปลี่ยนลักษณะท่าทางของสุนัขแล้วยังป้องไม่ให้สุนัขของคุณเกิดอาการสำลักอาหารได้

ของเล่น

อีกหนึ่งวิธีการเลี้ยงสุนัขในบ้านที่ขาดไม่ได้ก็คือของเล่นนั่นเอง เนื่องจากของเล่นจะช่วยในเรื่องการพัฒนาการด้านร่างกายและสมองของสุนัขแล้ว ยังเป็นผลดีต่อการทำกิจกรรมพื่อเพิ่มความสัมพันธ์อีกด้วย ซึ่งในการเลือกของเล่นให้สุนัขนั้น จะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เช่น ขนาดของเล่นที่เหมาะสม เป็นต้น

อาหาร

เนื่องจากสุนัขของคุณจำเป็นต้องรับประทานทุกวัน การให้อาหารที่เหมาะสมกับอายุและสายพันธุ์จะช่วยให้สุนัขของคุณมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมสำหรับการทำกิจกรรมใช้ชีวิตอย่างต่อเนื่อง

 

การฝึก เลี้ยงหมาในบ้านอย่างไรให้แสนรู้

เมื่อรู้วิธีเตรียมตัวสำหรับการเลี้ยงสุนัขในบ้านแล้ว ในขั้นตอนต่อไป คุณจะต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของสุนัขเพื่อนำไปสู่การฝึกและเลี้ยงอย่างไรให้ฉลาดและแสนรู้ เพื่อสร้างลักษณะนิสัยและพฤติกรรมที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยงคู่ใจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกเดิน ฝึกนั่ง และอื่นๆ ที่ควรรู้ไว้

  1. ฝึกให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง

ปัญหาขับถ่ายไม่เป็นที่ของสุนัขคุณอาจไม่เป็นผลดีต่อกลิ่นและความสะอาดภายในบ้าน ดังนั้น การฝึกขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทาง ไม่ว่าจะเป็นการสอนให้รู้จักใช้ห้องน้ำหรือกระบะทราย รวมถึงการให้รางวัล จะทำให้สุนัขของคุณเกิดการเรียนรู้และปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ฝึกไม่ให้ทำลายข้าวของ

หลายครั้งที่สิ่งของในบ้านเกิดการพังหรือเสียหายจนใช้งานไม่ได้ สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะสุนัขของคุณที่มักจะเล่นจนรุนแรงเกินไป ด้วยเหตุนั้น การฝึกออกคำสั่งหรือการใช้เวลาร่วมกับสุนัขมากขึ้น จะทำให้ปัญหาดังกล่าวหมดไป

  1. ฝึกเดิน

การฝึกสุนัขเดิน นอกจากจะทำให้สุนัขของคุณมีช่วงเวลาที่ได้วิ่งเล่นแล้ว ยังทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย สำหรับใครที่พึ่งเริ่มต้นกับการเลี้ยงสุนัขในบ้าน คุณสามารถเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการใช้อุปกรณ์ตัวช่วยอย่างสายจูงเพื่อฝึกให้สุนัขรู้จักเดิน

  1. ฝึกนั่ง

ท่านั่ง เป็นอีกหนึ่งท่าฝึกง่ายๆ ที่สุนัขของคุณสามารถทำได้ด้วยการจัดท่าทางคล้ายยืนตัวตรง จากนั้นให้ออกคำสั่งนั่งโดยอาจใช้ลักษณะมือประกอบท่าทางจนเมื่อสุนัขของคุณทำตามคำสั่งแล้ว อาจให้รางวัลตอบแทนเพื่อให้เกิดการจดจำ

  1. ฝึกให้คอย

หลังจากการเลี้ยงสุนัขในบ้านด้วยวิธีฝึกให้การเดินหรือนั่งแล้ว ในขั้นตอนถัดไปก็คือการฝึกให้คอย โดยให้คุณค่อยๆ เดินถอยออกมาจากจุดที่สุนัขของคุณยืนหรือนั่งอยู่ จากนั้นค่อยออกคำสั่งว่าคอย โดยการยื่นมือไปข้างในทางที่สุนัขอยู่ จากนั้นค่อยๆ ก้าวถอยหลังและนับเวลาเพื่อฝึกฝนให้สุนัขเข้าใจแล้วทำตามคำสั่ง

  1. ฝึกขอมือ

สำหรับการฝึกขอมือ ให้เจ้าของทำการหงายมือและยื่นไปข้างหน้าพร้อมเรียกชื่อสุนัขของคุณ ซึ่งคุณอาจออกคำสั่งซ้ำหากสุนัขไม่เข้าใจคำสั่ง ซึ่งการฝึกขั้นตอนดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยคุณได้

  1. ฝึกหมอบ

ในการฝึกหมอบนั้น เจ้าของสามารถออกคำสั่งต่อจากการนั่งได้ทันที โดยการส่งสัญญาณลดมือลงและจัดท่าสุนัขโดยการจับขาของเขาให้ค่อยๆ มาข้างหน้าติดกับพื้น แล้วรอให้เขาหมอบ

  1. ฝึกให้อยู่บ้านตัวเดียว

หลายครั้งที่คุณต้องออกไปทำธุระต่างๆ และไม่สามารถพกสุนัขไปด้วยได้ การฝึกให้สุนัขอยู่บ้านตัวเดียวได้จะทำให้คุณหมดปัญหารบกวนใจต่างๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัขในบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ดี คุณจะต้องมีการปรับพฤติกรรมหรือเริ่มต้นฝึกสุนัขให้รู้จักการอยู่คนเดียวให้ดีเสียก่อน

พฤติกรรมที่ควรเปลี่ยนก่อนฝึกให้อยู่ตัวเดียว

ก่อนเริ่มต้นฝึกให้สุนัขอยู่ตัวเดียวนั้น จะต้องปรับพฤติกรรมต่างๆ เสียก่อน ไม่ว่าจะเป็นการทำลายข้าวของ ขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง และอื่นๆ เพื่อไม่ให้สิ่งของในบ้านเสียหายหรือสกปรกได้

เคล็ดลับ เริ่มต้นฝึกให้น้องหมาอยู่ตัวเดียว

ในความเป็นจริง การเลี้ยงสุนัขในบ้านให้อยู่ตัวเดียวจำเป็นต้องมีการฝึกโดยคุณอาจฝึกให้สุนัขรู้จักอยู่ในคอกกั้นหรือภายในห้อง รวมถึงการเตรียมอาหารและห้องน้ำสำหรับขับถ่ายให้เรียบร้อย เพื่อให้มั่นใจว่าสุนัขของคุณจะมีความสุขดีในช่วงเวลาดังกล่าว

ทริคเลือกใช้โทนเสียงให้เหมาะกับการฝึก

นอกเหนือจากการเลี้ยงสุนในบ้านด้วยการฝึกสอนแล้ว การใช้โทนเสียงฝึกสุนัขเป็นอีกหนึ่งวิธีการสำคัญที่จะทำให้สุนัขของคุณเชื่อฟัง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เข้าใจในภาษาของมนุษย์ แต่ก็รับรู้ได้จากน้ำเสียงและท่าทางที่เราแสดงออกไปว่าเรากำลังชม กำลังอยากเล่นด้วย หรือกำลังดุพวกเขาอยู่ โดยการเลือกใช้น้ำเสียงและท่าทางที่ถูกต้องจะช่วยให้การฝึกนั้นมีประสิทธิภาพากขึ้น ซึ่งแนะนำว่าให้ปรับน้ำเสียงให้เข้ากับในแต่ละสถานการณ์ ดังนี้

 

เสียงร่าเริง สนุกสนาน

  • การใช้โทนเสียงร่าเริง สนุกสนานจะช่วยกระตุ้นให้สุนัขตื่นตัว พร้อมสำหรับการเล่นและการทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น
 

เสียงแสดงความผิดหวัง

  • การใช้เสียงแสดงความผิดหวัง อาจทำให้สุนัขของคุณรู้สึกถึงความกังวลใจได้ ดังนั้น การฝึกดังกล่าวจึงเหมาะกับการเลี้ยงหมาในบ้านที่ต้องอาศัยบทลงโทษที่พอดีพอเหมาะ
 

เสียงนุ่มนวล แสดงถึงความรัก

  • การใช้เสียงนุ่มนวล เป็นการแสดงออกด้านความรักแบบหนึ่งกับสัตว์เลี้ยงของคุณ ทำให้เขามีความสุขและร่าเริงสนุกสนาน
 

เสียงหนักแน่น ใช้ในการออกคำสั่ง

  • การใช้เสียงหนักแน่นเป็นโทนเสียงแบบหนึ่งที่ใช้ในการออกคำสั่ง ซึ่งสามารถสั่งย้ำได้เมื่อสุนัขของคุณยังไม่ทำตาม
 

เสียงที่ใช้สำหรับคำเตือนเมื่อเกิดอันตราย

  • การใช้เสียงเตือนเมื่อเกิดอันตราย เช่น การขึ้นเสียงสูงหรือการใช้เสียงดัง จะทำให้สุนัขรับรู้ถึงเหตุอันตรายที่เกิดขึ้นและสามารถหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ดังกล่าวได้

การเลี้ยงสุนัขในบ้านจำเป็นที่จะต้องมีการฝึกฝนเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ทำพฤติกรรมที่สร้างความรำคาญให้กับเพื่อนบ้านหรือทำลายข้าวของให้เกิดความเสียหาย โดยที่เจ้าของต้องทำความเข้าพฤติกรรมน้องหมาเพื่อที่จะได้ฝึกฝนเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://www.apthai.com

https://www.jojohouse.com

https://www.ofm.co.th