10 วิธีป้องกันน้องหมาเมารถ หยุดยาวทั้งที แน่นอนว่าหลายๆคนก็มีแพลนจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันใช่ไหมล่ะคะ สำหรับคนทั่วๆไปคงจะไม่มีปัญหาอะไรให้ต้องกังวลใจมากนัก แต่สำหรับคนเลี้ยงสุนัขนั้น ไม่ใช่เลย เพื่อให้การเดินทางท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น จึงควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนพาน้องหมาเดินทาง และศึกษาวิธีการรับมือปัญหาน้องหมาเมารถเอาไว้ด้วย

สาเหตุที่ทำให้สุนัขมีอาการเมารถ

อาการเมารถของสุนัขเกิดจากการที่สุนัขเดินทางด้วยรถยนต์ที่มีการใช้ความเร็วไม่คงที่ ช้าบ้าง เร็วบ้าง ทำให้ช่องหูส่วนในทำงานไม่สมดุลกับสมองส่วนรับสัญญาณที่เกี่ยวกับความเคลื่อนไหว นอกจากนี้อาการเมารถในสุนัขอาจจะเกิดได้จากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้อีกด้วย เพราะสภาพแวดล้อมในรถยนต์มีความคับแคบ หรือบางครั้งในรถยนต์อาจจะมีกลิ่นที่สุนัขไม่คุ้นเคย ทำให้สุนัขเกิดความเครียด จิตใจไม่มั่นคง สับสนหรือมึนงงจนทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนออกมาได้นั่นเอง

จะรู้ได้ยังไงว่าสุนัขมีอาการเมารถ?

วิธีสังเกตุว่าน้องหมาของเรานั้นมีอาการเมารถรึเปล่าสามารถดูได้จากอาการต่อไปนี้ค่ะ น้องหมามีอาการตื่นเต้น น้ำลายไหลมากกว่าปกติ เลียปากมากขึ้น กระสับกระส่าย เดินเซ หอบ ทำท่าเหมือนอยากจะอาเจียน หรือมีอาการอาเจียน ฯลฯ ถ้าเจออาการเหล่านี้สันนิษฐานได้เลยค่ะว่าน้องหมาของเราอาจจะเกิดอาการเมารถเข้าให้แล้ว

1.ฝึกน้องหมานั่งรถ

ก่อนไปเที่ยวประมาณ 1-2 สัปดาห์ให้ฝึกน้องหมาให้คุ้นเคยกับการขึ้นรถ อาจจะพาน้องหมาเดินทางในระยะทางสั้น ๆ เพื่อให้น้องหมาคุ้นเคยกับกลิ่น สภาพแวดล้อม และเสียงเครื่องยนต์

2.ตรวจสุขภาพก่อนเดินทาง

ก่อนที่จะจัดทริปพาน้องหมาไปเที่ยว หรือเดินทางไกล ๆ แนะนำว่า ให้เพื่อน ๆ พาน้องหมาไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ก่อนประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อเช็กร่างกายว่าน้องหมามีร่างกายที่แข็งแรงพอและสามารถเดินทางไกลได้ หรือถ้าน้องหมาเคยมีปัญหาเมารถ ก็อาจจะปรึกษาสัตวแพทย์ขอยาแก้เมารถมาพกติดไว้ สำหรับการให้ยาแก้เมารถกับน้องหมา ต้องให้กินล่วงหน้าก่อนเดินทางประมาณ 30 นาที

3.งดให้อาหารก่อนเดินทาง

ก่อนการเดินทางให้พาหมาไปฉี่หรืออึก่อน งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 1 ชั่วโมงเพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมาอาเจียนในระหว่างการเดินทาง แต่ถ้าหากต้องพาน้องหมาเดินทางไกล อาจให้อาหารและน้ำกินเพียงเล็กน้อยไม่เกินหนึ่งในสามส่วนของการกินปกติเพื่อให้น้องหมาได้รับสารอาหาร ท้องไม่ว่างจนเกินไป หากน้องหมาเริ่มมีอาการเมารถ ก็ควรหยุดรถเพื่อให้น้องหมาพักทันทีแล้วค่อยเดินทางต่อน้า

4.แวะพักระหว่างทาง

ทุกครั้งที่พาน้องหมาออกไปเที่ยวนอกสถานที่ หรือวางแผนไปเที่ยวทางไกลแนะนำว่าควรหยุดพักทุก 2 ถึง 3 ชั่วโมง เพื่อพาน้องหมาออกมายืดแข้งยืดขา กินน้ำ และฉี่ แต่ถ้าต้องการเดินทางยาวนานไกลมาก ๆ 4-5 ชั่วโมง ควรให้อาหารน้องหมากินบ้าง แต่ควรเว้นระยะประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมงแล้วค่อยเดินทางต่อ

5.ให้เค้าอุ่นใจขณะเดินทาง

น้องหมาบางตัวอาจจะไม่คุ้นเคยกับการต้องนั่งรถยนต์  และรู้สึกไม่ปลอดภัยกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย ดังนั้น ตลอดการเดินทางแนะนำว่า ให้เพื่อน ๆ หรือสมาชิกในครอบครับที่ไม่ได้ขับรถยนต์ลองใช้วิธีพูดให้กำลังใจพร้อมคำชม เช่น เก่งมาก , ดีมากและสัมผัส ลูบตัวปลอบใจเพื่อให้น้องหมารู้สึกอบอุ่นและรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การทำแบบนี้จะช่วยเสริมความมั่นใจ ทำให้น้องหมาหายจากอาการประหม่าได้เป็นอย่างดีเลยน้า

6. จัดที่นั่งภายในรถให้เหมาะสม

การจัดตำแหน่งที่นั่งภายในรถให้น้องหมา เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรื่องความปลอดภัยมากๆ โดยตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดที่จะให้น้องหมาอยู่ในรถยนต์ คือ เบาะด้านหลัง เพื่อน้องหมาจะได้ไม่รบกวนโซนด้านหน้าที่อาจจะทำให้คนขับรถเสียสมาธิ และอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และไม่ควรให้นั่งกับพื้นรถ เพราะจะได้รับแรงกระแทกจนอาจทำให้เกิดอาการเครียดได้

นอกจากนี้ควรเตรียม Dog Car Seat เอาไว้เพื่อป้องกันการร่วงหล่นจากเบาะหากเบรกกะทันหัน สายรัดนิรภัยนี้มีหลายขนาด เหมาะกับหมาที่มีนิสัยซุกซน ชอบปีนป่าย วิ่งไปวิ่งมาขณะอยู่บนรถ หรือน้องหมาที่มีนิสัยชิบกระโจนออกจากรถเมื่อเห็นประตูเปิดออก

7. เตรียมของเล่น

น้องหมาที่ไม่คุ้นชินกับการเดินทางหรือเกิดอาการกลัวลนลานเวลาพาขึ้นรถ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ด้วยการนำของเล่นชิ้นโปรดมาให้น้องหมาเล่น หากเป็นหมาเล็กเอาผ้าห่มตะกร้าที่นอนประจำตัวติดรถไปด้วย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจ ลดความเครียดให้กับน้องหมา ของที่คุ้นเคย เช่น ตุ๊กตา ผ้าห่ม ไปไว้บนรถ หรือเจ้าของที่น้องหมาให้ความไว้ใจ การพูดปลอบประโลมหรือเอาออกมาอุ้มในรถบ้าง จะช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัยและลดความตื่นกลัวในระหว่างการเดินทาง

8. กินยาแก้เมาเพื่อป้องกันรถ

หากน้องหมามีอาการเมารถ สังเกตได้จากการที่น้องหมามีอาการคอตกหรือน้ำลายเยิ้ม วิธีแก้เมาเฉพาะหน้าคือหาพื้นที่ในรถสำหรับให้หมานอนได้สบายที่สุด เน้นให้อากาศถ่ายเท เร่งพัดลมระบบปรับอาหาศภายในห้องโดยสาร อย่าเป่าแอร์ใส่น้องหมาโดยตรง จากนั้นเตรียมถุงออกมารอเพราะน้องหมาจะอาเจียน

9. เปิดกระจก

เมื่อขับรถด้วยความเร็วต่ำในเส้นทางชนบท ควรเปิดหน้าต่างให้หมาได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เพิ่มความระมัดระวังสำหรับน้องหมาที่มีนิสัยซุกซน โดยเปิดกระจกให้เท่าที่หมาจะสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ แต่ไม่ควรเปิดกว้างจนน้องหมาสามารถกระโดดออกไปนอกรถได้

10. พกของเล่นที่สุนัขชอบไปด้วย

อาจเป็นผ้าห่มที่สุนัขห่มอยู่ทุกวัน จะทำให้สุนัขรู้สึกผ่อนคลายความกังวลขึ้นเมื่อได้กลิ่นประจำของตนเอง หรือไม่ก็อาจเป็นตุ๊กตาที่สุนัขคาบเล่นบ่อยๆ ให้เอาติดรถมาด้วย สำหรับเป็นเพื่อนการเดินทางของสุนัข กลิ่นที่คุ้นชินจะทำให้เขาสบายใจขึ้น คลายความกังวลลง

ก่อนจะไปเที่ยวตอนรับวันหยุดยาวคุณเจ้าของอย่าลืมวางแผนการเดินทางอาจจะพาน้องๆซ้อมนั่งรถก่อนออกทริปสัก 1-2 อาทิตย์ เพื่อให้น้องปรับตัวได้ ทริปเที่ยวครั้งนี้จะได้ Happy ทั้งเจ้าของสัตว์เลี้ยงนะ

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://thonglorpet.com

https://www.baanlaesuan.com

https://travel.trueid.net

https://www.dogilike.com