5 อย่างที่ไม่ควรทำกับพันธุ์สุนัขไทย
สารบัญ
สุนัขสายพันธุ์ไทยที่เรารู้จักกันดีคงหนีไม่พ้นสุนัขพันธุ์หลังอานและสุนัขพันธุ์บางแก้ว ซึ่งสุนัขสายพันธุ์ไทยส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่ยังมีความไม่มั่นคงทางจิตใจเท่าไหร่นัก ทำให้ฝึกค่อนข้างยาก วันนี้จึงเอาเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ไทยมาฝากกัน ใครอยากเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ไทย หรือ ใครที่เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ไทยอยู่
พันธุ์สุนัขในไทยที่นิยมมีอะไรบ้าง
1.พันธุ์ไทยหลังอาน
สุนัขไทยหลังอาน ( Thai Ridgeback Dog ) เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกในชื่อ “หมาไทย” ( Mah Thai ) โดยปัจจุบันหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา มีการติดต่อสั่งซื้อไปเพาะเลี้ยงกัน จนถึงขั้นมีการจดทะเบียนสมาคมสุนัขไทยหลังอานในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย ภายใต้ชื่อ Thai Ridgeback Club of The United State (TRCUS) American Thai Ridgeback Association (ATRA)
ถิ่นกำเนิด
มีการวิเคราะห์และศึกษาจากผู้รู้ว่า หมาพันธุ์ไทยหลังอานน่าจะอยู่ในกลุ่ม Wolf , Fox, Jackal, Coyote เป็นสุนัขพันธุ์พื้นเมืองที่อยู่ในย่านเอเชียตะวันออก พื้นที่เขตร้อน ซึ่งสุนัขพื้นเมืองในเขตนี้จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน เช่น สุนัขในประเทศลาว เวียดนาม กัมพูชา พม่า มาเลเซีย บางแถบของจีน โดยจะมีกะโหลกศีรษะเป็นสามเหลี่ยมรูปลิ่ม กรามใหญ่ แข็งแรง หูทั้งสองข้างตั้งชัน เส้นหลังตรง และหางตั้งยกขึ้นเหมือนดาบ
ลักษณะเด่น
เพศผู้จะมีความสูงเต็มที่โดยเฉลี่ย 21–25 นิ้ว เพศเมียจะสูงประมาณ 19–24 นิ้ว ส่วนน้ำหนักโดยเฉลี่ยเมื่อโตเต็มที่ เพศผู้จะหนักประมาณ 20–25 กิโลกรัม ขณะที่เพศเมียจะหนักราว 18–24 กิโลกรัม
2.พันธุ์บางแก้ว
สุนัขไทยพันธุ์เดียวที่มีขนยาวสองชั้น หางเป็นพวง แผงรอบคอคล้ายสิงโต จัดเป็นสุนัขที่มีลักษณะสวย ฉลาด ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ เลี้ยงง่าย มีความกล้าหาญ เหมาะเลี้ยงเป็นเพื่อน เฝ้าบ้าน แถมเป็นหมานักสู้ แม้บางแก้วมีนิสัยค่อนข้างดุ แต่ถ้ามีใครคิดทำร้ายเจ้าของมันแล้วล่ะก็ บางแก้วจะสู้ไม่ถอย
ถิ่นกำเนิด
ถิ่นกำเนิดของน้องหมาพันธุ์ไทยนี้อยู่ที่ วัดบางแก้ว ต.บางแก้ว อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เป็นลูกผสมระหว่าง 3 สายพันธ์ ได้แก่ หมาป่า หมาจิ้งจอก และหมาใน ลักษณะมีหลายสีเหมือนหมาบ้าน ขนยาวสองชั้นเหมือนหมาป่า หูป้องไปข้างหน้าเหมือนหมาจิ้งจอก มีความดุ รักถิ่นฐานเหมือนหมาบ้าน และกล้าหาญเหมือนหมาใน
ลักษณะเด่น
ขนาดเท่าสุนัขไทย หรือเล็กกว่าเพียงเล็กน้อย ขนปุยยาว แข็งแรง เวลายืนมักเชิดหน้า กะโหลกใหญ่ ปากยาวแหลม หูเล็กสั้นตั้งป้องไปข้างหน้า ภายในหูจะมีขนปลายปิด รูหูคล้ายหมาจิ้งจอก ตาเล็กทรงกลมรี พื้นสีตาเป็นสีเหลืองทองคล้ำ เวลาโกรธจะขึ้นแววสีฟ้าใส หรือที่เรียกว่า “ตาเขียว” จมูกสีดำ ฟันซี่เล็กขาวคม หางเป็นพวงเพราะสืบทอดมาจากหมาจิ้งจอก ลักษณะตั้งโค้งไปข้างหน้า หรือพุ่งไปด้านหลังแล้วโค้งตั้งขึ้น
5 สิ่งที่ไม่ควรทำกับพันธุ์สุนัขไทย
1. ห้ามฝึกสุนัขสายพันธุ์ไทยด้วยการตี หรือ ใช้อุปกรณ์การฝึกที่รุนแรง
ธรรมชาติของหมาไทยเป็นสุนัขที่เจ้าคิดเจ้าแค้น หากคุณเผลอไปตีหรือทำร้ายสุนัข เขาจะจดจำการกระทำเหล่านั้นไว้ และหากคุณเผลอ สุนัขอาจจะกัดคุณได้ ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นคนที่คอยให้อาหารเขาก็ตาม ซึ่งการกัดของสุนัขสายพันธุ์ไทยนั้นส่วนใหญ่จะกัดแบบฝังเขี้ยว ไม่มีการงับเล่นๆอย่างแน่นอนค่ะ ดังนั้นจึงควรฝึกและเลือกใช้อุปกรณ์ที่ไม่รุแรง เช่น เลือกสายจูงสุนัขที่ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บแทนการเลือกใช้โซ่เส้นเล็กๆ
2. ไม่ควรใส่กระดิ่งให้กับสุนัขสายพันธุ์ไทย
หลายคนมักจะแก้ปัญหาหาสุนัขไม่เจอด้วยการใส่กระดิ่งที่ปลอกคอ จริงๆแล้วการใส่กระดิ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาปลายเหตุ หากเราหาสุนัขไม่เจอเราต้องทำให้สุนัขเขาเชื่อฟังเราด้วยการฝึกอย่างถูกวิธีมากกว่า และการใส่กระดิ่งอาจจะทำให้สุนัขมีจิตใจไม่มั่นคง เนื่องจากปกติสุนัขจะได้ยินเสียงที่มีความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ (Hz) และมากกว่า 20,000 เฮิรตซ์ (Hz) ซึ่งเป็นความถี่ที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถได้ยินหรือรับรู้ได้ ดังนั้นการใส่กระดื่งจึงเป็นการสร้างความรำคาญให้กับสุนัขตลอดเวลา และเป็นการสะสมความไม่มั่นคงให้กับสุนัขโดยที่หลายๆคนไม่รู้ตัวนั่นเอง
3. ไม่ควรให้อาหารสุนัขสายพันธุ์ไทยโดยวางชามอาหารไว้ที่พื้น
สุนัขสายพันธุ์ไทยเป็นสุนัขที่หวงของเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การวางอาหารไว้ที่พื้นจะทำให้สุนัขที่มีตัวสูงกว่าชามอาหารสามารถยืนคร่อมชามเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของได้ ทำให้สุนัขแสดงอาการหวงชามอาหาร ถือเป็นการกระตุ้นนิสัยหวงของให้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ เบื้องต้นสามารถฝึกให้สุนัขลดการหวงอาหารได้ตอนที่สุนัขยังเด็กโดยการใช้มือสัมผัสกับอาการหรือแช่มือไว้ในชามอาหารเพื่อให้สุนัขคุ้นชิน (ห้ามใช้วิธีนี้กับสุนัขตอนโตเด็ดขาด!!! ครูโจอี้เชื่อว่าต้องมีเลือดตกยางออกกันแน่นอนค่ะ!!!)
4. ไม่ควรทำหมันสุนัขสายพันธุ์ไทยหลังอายุ 6 เดือน
การทำหมันสุนัข คือการลดฮอร์โมนทางกายภาพสำหรับสุนัขที่มีแนวโน้มจะดุร้าย โดยการสังเกตสุนัขว่ามีแนวโน้มจะดุร้่ยหรือไม่สามาถดูได้จากการฉี่ทับที่กันมากเกินกว่าเหตุ ในบางครั้ง หากเราแจ้งคุณหมอเพื่อทำหมันสุนัขที่อายุ 6 เดือน คุณหมอบางท่านอาจจะยังไม่ยอมให้เนื่องจากลักษณธทางกายภาพของสุนัขยังไม่โตเต็มที่ ครูโจอี้แนะนำให้แจ้งคุณหมอไปตรงๆว่าสุนัขของเรามีแนวโน้มดุ หากทำหมันหลัง 6 เดือน สุนัขมีโอกาสดุร้ายถึงขั้นกัดเจ้าของ กัดสุนัขตัวอื่นจนเสียชีวิต การยอมทำหมันสุนัข 6 เดือน จึงถือเป็นเรื่องดีกว่าการที่เราเลี้ยงเขาโดยที่เข้าดุร้าย จนเราต้องตัดใจทิ้งหรือทำร้ายเขาในอนาคตนั่นเองค่ะ
5. ห้ามใส่สายรัดอกให้กับสุนัขสายพันธุ์ไทย
การใส่สายรัดอกให้สุนัขเปรียบเสมือนการใส่เสื้อเกราะให้เขา ทำให้สุนัขมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สุนัขมีแรงในการสู้รบกับเรามากขึ้น เช่นการกระชาก เป็นต้น ควรใช้ปลอกคอผ้าหรือโช๊คเชนแทน
และนี่ก็คือ 5 อย่างที่ไม่ควรทำกับสุนัขสายพันธุ์ไทย ใครอยากเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทย หรือกำลังจะรับสุนัขพันธุ์ไทยมาเลี้ยงอย่าเผลอทำสิ่งที่ไม่ควรทำทั้ง 5 ข้อนี้เด็ดขาดเลย
บทความที่น่าสนใจ เรื่องที่ต้องเจอสำหรับคนเลี้ยงสุนัขมือใหม่
อ้างอิงข้อมูลจาก