จัดการปัญหาแมวปากเหม็นได้ง่ายๆด้วยวิธีนี้
ปัญหาเรื่องกลิ่นปาก ไม่ใช่เรื่องที่เกิดกับคนเราได้เท่านั้น รู้หรือเปล่าปัญหากลิ่นปากก็เกิดได้กับน้องแมวของเราได้เหมือนกัน ที่สำคัญปัญหานี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่น้องแมวเป็นกันมาก จนหลายคนคิดว่าเรื่องแมวปากเหม็นนี้เป็นเรื่องเล็กและละเลยปัญหากลิ่นปากของน้องแมวที่เป็นหนึ่งในสัญญาณที่บ่งบอกว่าน้องแมวกำลังมีความผิดปกติในช่องปากอยู่ หากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้น้องแมวฟันหลุด เหงือกอักเสบ และมีปัญหาหินปูนตามมา
วิธีป้องกันปัญหาแมวปากเหม็นที่เกิดจากหินปูนและคราบแบคทีเรีย
ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเจ้าแมวปากเหม็นมีจุดเริ่มต้นมาจากคราบแบคทีเรียและหินปูน รวมทั้งแมวที่ติดเชื้อไวรัสเอดส์แมว, ลิวคีเมีย และหวัดแมว หากปล่อยให้มีหินปูนและคราบแบคทีเรีย ก็สามารถโน้มนำให้เกิดแผลในปากและเหงือกอักเสบได้ง่าย ๆ แล้วอาการยังรุนแรงกว่าแมวทั่ว ๆ ไปอีกด้วย มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะป้องกันปัญหาแมวปากเหม็น
อาหารแมว
ลักษณะของอาหารแมวมีผลโดยตรงต่อสุขภาพช่องปากและฟันของแมว อาหารเม็ดมีความหยาบทำให้แมวต้องเคี้ยวก่อนกลืน ช่วยให้เกิดการขัดถูที่ผิวฟันทำให้ลดโอกาสเกิดคราบแบคทีเรียสะสมได้ แต่แน่นอนว่าอาหารเม็ดที่ทั้งแห้งและแข็งอาจไม่น่าอร่อยเท่าอาหารเปียกหรือข้าวคลุกปลา หากการเปลี่ยนมากินอาหารเม็ดมันเป็นสิ่งที่ยากเหลือเกิน ลองค่อย ๆ ผสมอาหารเม็ดลงไปในอาหารเดิมทีละน้อยและค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อย ๆ ทีละ 25% ของอาหารทั้งหมด รับรองว่าไม่เกิน 7 วันแมวจะยอมกินอาหารเม็ดอย่างแน่นอน
ฝึกแมวเหมียวให้กินน้ำเก่ง
แมวไม่ชอบกินน้ำใคร ๆ ก็รู้ แต่จะทำอย่างไรให้แมวกินน้ำเพิ่มขึ้น เพราะการกินน้ำนี่แหละเป็นการล้างคราบอาหาร ลดการสะสมคราบแบคทีเรียที่นำไปสู่การเกิดหินปูนและทุก ๆ ปัญหาของช่องปากและฟัน นอกจากนั้นยังช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น แมวกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แมวท้องผูก
ทาสแมวพยายามอย่างมากในการค้นหาวิธีให้แมวกินน้ำให้เพียงพอ โดยมีหลักการง่าย ๆ ดังนี้
- แอบสังเกตพฤติกรรมกินน้ำของแมว แมวบางตัวชอบน้ำไหล แมวบางตัวชอบน้ำนิ่ง ดังนั้น แมวจะเลือกกินน้ำจากถ้วย บ่อปลาหรือน้ำตกแมว แล้วแต่ความชอบของแมว ที่สำคัญคือ น้ำนั้นต้องสะอาด
- กลิ่นของน้ำก็มีผลต่อความอยากกินน้ำของแมว แมวชอบน้ำที่ไม่มีสี กลิ่น รส แมวส่วนใหญ่มีสัมผัสพิเศษที่ไวมากต่อกลิ่นแปลก ๆ แม้แต่กลิ่นชามพลาสติกก็ทำให้แมวบางตัวไม่กินน้ำซะแล้ว
- ลักษณะชามน้ำ เลือกลักษณะชามที่กว้างกว่าหน้าแมวและค่อนข้างเตี้ย จะทำให้แมวสะดวกต่อการกินน้ำมากขึ้น เพราะหนวดไม่ชนขอบชามและตายังมองสิ่งรอบตัวได้ขณะกินน้ำ นอกจากนั้นชามที่ไม่ค่อยมีกลิ่น เช่น เซรามิกหรือแก้วก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดี
เทคนิคแปรงฟันให้แมว
เริ่มต้นจากเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมและชวนแมวให้เล่นแปรงฟัน เริ่มลูบไล้หน้าแมวและจับหน้าแมวเอียงขึ้น 45 องศา ค่อย ๆ สอดอุปกรณ์สำหรับทำความสะอาดไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟันขนาดเล็กหรือปลอกนิ้วก็ได้ ถูเบา ๆ ในขั้นตอนนี้หากเพิ่มยาสีฟันสำหรับสัตว์ก็จะทำให้การแปรงฟันง่ายขึ้น และอย่าลืมให้รางวัลแมวหลังแปรงฟันด้วยนะ เช่น ขนมที่เป็นมิตรกับฟัน
เทคนิคการแปรงฟันแมวคือ เริ่มจากฟันหน้าก่อนให้แมวคุ้นเคย เมื่อเริ่มยอมรับการแปรงฟันแล้วค่อยแปรงเข้าไปถึงฟันซี่ข้างใน เพราะหินปูนมักจะเกิดขึ้นมากที่ฟันกรามจึงไม่ควรละเลยที่จะแปรงฟันให้ครบทุกซี่โดยเน้นที่ขอบเหงือกทั้งด้านลิ้นและกระพุ้งแก้ม
กลิ่นปากมาจากไหน
กลิ่นปากเกิดจากการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากจนทำให้น้องแมวปากเหม็นขึ้นมา นอกจากนี้ยังเกิดจากปัญหาของเหงือกและฟัน เช่น ปัญหาหินปูน ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียในช่องปากสร้างคราบที่ผิวฟัน รวมทั้งมีแคลเซียมในน้ำลายมาเกาะที่คราบเหล่านี้จนเป็นหินปูน ซึ่งหินปูนนี้เองที่อยู่อาศัยของเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของเหงือกอักเสบ ฟันหลุด และโรคหัวใจในระยะยาวได้ด้วย
นอกจากนี้กลิ่นปากยังอาจเกิดได้จากช่องปากอักเสบ หรืออาจเกิดได้จากการป่วยเป็นโรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน โรคไต ที่ทำให้ร่างกายขจัดของเสียออกจากร่างกายได้น้อยลง เกิดของเสียสะสมอยู่ในกระแสเลือดจนเป็นที่มาของกลิ่นปาก ซึ่งต้องรีบพาน้องแมวไปพบคุณหมอเพื่อทำการรักษาโรคโดยด่วน จัดการปัญหาแมวปากเหม็น
การแปรงฟันให้น้องแมวเป็นประจำ จะช่วยป้องกันการเกิดหินปูนและลดกลิ่นปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ต้องค่อยๆ ฝึกน้องแมวให้หัดแปรงฟันตั้งแต่เด็ก จะช่วยให้น้องแมวยอมรับการแปรงฟันง่ายกว่ามาฝึกตอนที่น้องแมวโตแล้ว โดยเริ่มฝึกได้ตั้งแต่ลูกแมวอายุประมาณ 2 เดือน เป็นต้นไป ที่สำคัญต้องใช้ยาสีฟันที่ทำออกมาสำหรับสัตว์เท่านั้น ไม่ควรใช้ยาสีฟันของคนมาแปรงให้กับน้องแมว เพราะน้องแมวอาจมีปัญหาจากการแพ้ฟลูออไรด์ที่เป็นส่วนประกอบในยาสีฟันของคนได้ เริ่มต้นฝึกน้องแมวแปรงฟันด้วยการใช้นิ้วถูที่ฟัน เมื่อน้องแมวยอมให้ใช้นิ้วถูฟันแล้วจึงเริ่มปรับมาใช้ผ้าก๊อซถูฟัน และเมื่อน้องแมวเริ่มชินก็ให้ใช้แปรงสีฟันสําหรับน้องแมวโดยเฉพาะแปรงฟัน หลังจากที่แปรงฟันให้น้องแมวแล้วอย่าลืมให้รางวัลกับน้องแมวด้วยอาหารเม็ดกรุบกรอบแสนอร่อยทุกครั้งด้วย ตรวจสุขภาพช่องปาก
ควรพาน้องแมวไปพบคุณหมอเพื่อตรวจช่องปากอย่างน้อยปีละ 1 – 2 ครั้ง เพื่อประเมินสุขภาพเหงือกและฟัน หากเกิดปัญหาที่เรานึกไม่ถึง จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที
กลิ่นแบบไหนที่เรียกว่า แมวปากเหม็น
กลิ่นปากแมวเป็นแบบไหน เหมือนกลิ่นปากคนหรือไม่? ตอบได้เลยว่ากลิ่นแบบเดียวกัน แต่กลิ่นปากแมวรุนแรงกว่าแน่นอนโดยเฉพาะแมวป่วยที่มีปัญหาช่องปากและฟัน
หากอยากรู้ว่าแมวเหมียวที่บ้านมีกลิ่นปากหรือไม่ ลองดมปากและลมหายใจของแมวใกล้ ๆ ตอนหลับสนิท ถ้ามีกลิ่นตุ่ย ๆ เหมือนกลิ่นปากของเราที่ไม่ได้แปรงฟันสัก 2-3 วัน นั่นล่ะ แมวปากเหม็นที่เรากำลังพูดถึง
- คำเตือน อย่าดมกลิ่นปากแมวหลังกินอาหารเสร็จใหม่ ๆ นะ เพราะอาจจะสับสนกลิ่นปากแมวกับกลิ่นอาหารก็เป็นได้และช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดก็คือตอนที่แมวนอนหลับสนิท
สาเหตุของแมวปากเหม็น
แมวปากเหม็นมีสาเหตุหลักแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับปากและฟันโดยตรงกับปัญหากลิ่นปากที่มีสาเหตุโน้มนำมาจากปัญหาภายนอกช่องปาก เช่น โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน เป็นต้น
1. ปัญหาที่เกิดกับช่องปากและฟัน (Oral cavity and teeth)
แมว 50-90 เปอร์เซ็นต์เริ่มมีปัญหาช่องปากและฟันเมื่ออายุ 4 ปีขึ้นไปและรุนแรงขึ้นไปตามอายุเมื่อไม่ได้รับการรักษา ซึ่งเราสามารถป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้โดยการจัดการเรื่องอาหารและดูแลความสะอาดภายในช่องปากของแมว
เรามารู้จักสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปากแมวและทำให้แมวปากเหม็นกันเถอะ
คราบแบคทีเรีย (Plaque) ลักษณะเป็นคราบสีขาวหรือสีเทาที่เคลือบอยู่บนผิวฟัน ค่อนข้างนิ่มแต่เกาะผิวฟันอย่างแน่นเหนียว หมายความว่า การกินน้ำไม่สามารถชะล้างคราบออกไปได้ ต้องอาศัยการขัดถู เช่น การแปรงฟันหรือการเคี้ยวอาหารที่ค่อนข้างหยาบจะช่วยการสะสมของคราบแบคทีเรียได้ เมื่อคราบแบคทีเรียก่อตัวมากขึ้นจะทำให้เกิดการอักเสบบริเวณเหงือกและจากคราบนิ่ม ๆ ก็จะกลายเป็นหินปูนในที่สุด
หินปูน (Tartar) มีจุดเริ่มต้นมาจากคราบแบคทีเรียที่สะสมกันมาอย่างยาวนานและเริ่มมีแคลเซียมมาเกาะจนทำให้แข็งขึ้น หินปูนทำให้เหงือกอักเสบและเหงือกร่น เราไม่สามารถแปรงฟันหรือแคะหินปูนหนา ๆ ออกเองได้ ต้องใช้อุปกรณ์ขูดหินปูนเพื่อทำความสะอาดช่องปาก
เหงือกอักเสบ (Gingivitis) สาเหตุหลัก ๆ ของแมวเหงือกอักเสบมาจากการสะสมของคราบแบคทีเรียและหินปูน เราจะสังเกตเห็นขอบเหงือกอักเสบ บวม แดง และอาจพบเลือดออกได้ ซึ่งช่วงแรก ๆ ที่เหงือกอักเสบแมวจะยังใช้ชีวิตปกติ ถ้าเจ้าของไม่เปิดปากแมวดูก็อาจไม่ทราบว่าแมวเหงือกอักเสบและยังสามารถหายเองได้โดยไม่ต้องไปหาหมอเพียงแค่แปรงฟันเพื่อเอาคราบแบคทีเรียออกเท่านั้น แต่หากปล่อยไว้จนเหงือกอักเสบรุนแรงขึ้น หินปูนเกาะหนา เหงือกร่น ตอนนี้ล่ะที่แมวจะเริ่มเจ็บปวด แมวน้ำลายไหล แมวปากเหม็นและแมวไม่กินอาหาร รวมทั้งมีการติดเชื้อแบคทีเรียตามมาด้วย
โรคปริทันต์ (Periodontitis) เป็นจุดที่เหงือกอักเสบอย่างรุนแรงจนทำให้เนื้อเยื่อที่ยึดเกาะรากฟันกับกระดูกกรามเริ่มสลายตัวไป มักพบในแมวแก่มากกว่าแมวเด็ก อาการของโรคคือ แมวฟันโยก เหงือกอักเสบ บวมแดง มีเลือดออกและเจ็บปวดมาก มักมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย ซึ่งหากการติดเชื้อแบคทีเรียลุกลามเข้าไปในรากฟันอาจเกิดก้อนฝี (Root tooth abscess) ขึ้นได้ (ก้อนฝีที่เกิดขึ้นเราอาจคลำพบก้อนบวมบริเวณใบหน้า ใต้ตา ต่อมน้ำเหลืองบวม หรือบางครั้งอาจจะทะลุเข้าสู่โพรงจมูกและมีอาการคล้ายเป็นหวัดมีน้ำมูกแบบเรื้อรัง)
ฟันสลายตัว (Tooth Resorption) เป็นสาเหตุที่ทำให้แมวสูญเสียฟันซึ่งพบได้ประมาณ 30-70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสาเหตุยังไม่แน่ชัดแต่มีความเป็นไปได้ตามทฤษฎีว่า ฟันเกิดการสลายตัวเนื่องจากถูกกระทบกระแทกอย่างรุนแรง (Trauma) หรือการอักเสบ (Inflammation) ฟันจะสูญเสียสารเคลือบฟัน (Enamel) ลึกลงไปถึงเนื้อฟัน (Dentine) และค่อย ๆ สลายหรือหักไปในที่สุด ส่วนใหญ่ภาวะฟันสลายตัวสร้างความเจ็บปวดสำหรับแมวมาก
2. ความผิดปกติของอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย (Systemic diseases)
กลิ่นปากที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่เป็นผลมาจากความผิดปกติของร่างกาย เช่น โรคไต โรคตับ โรคเบาหวาน โรคระบบทางเดินหายใจ หรือโรคผิวหนังที่เกิดจากอาการแพ้ ทำให้แมวมีแผลบริเวณริมฝีปากก็เป็นสาเหตุของแมวปากเหม็นได้
อาการที่พบอาจไม่ใช่แค่กลิ่นปากหรือแผลในปากเพียงอย่างเดียว แต่จะพบอาการอื่น ๆ ที่จำเพาะต่อโรคนั้นด้วย เช่น แมวผอมลง กินน้ำเยอะ ปัสสาวะเยอะ เป็นหวัดแบบรุนแรงหรือผิวหนังอักเสบ เป็นต้น กรณีนี้การดมกลิ่นปากแมวเพียงอย่างเดียวสัตวแพทย์ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นโรคอะไร ต้องอาศัยการตรวจอื่น ๆ เพิ่มเติม
กลิ่นปากแบบไหนมาจากความผิดปกติภายในร่างกายไม่ใช่ที่ปาก
กลิ่นปากแบบไหน บ่งบอกว่าแมวเป็น โรคตับ โรคไต โรคเบาหวานหรือมาจากผิวหนังอักเสบ บอกเลยว่าแยกกันค่อนข้างยาก จมูกมนุษย์อาจไม่สามารถแยกกลิ่นได้ดีขนาดนั้น บางครั้งเวลาพาแมวไปหาหมอ โดยเฉพาะแมวแก่ เราอาจเคยได้ยินว่าหมอขอตรวจค่าตับค่าไตเพราะได้กลิ่นปาก นั่นเป็นเพราะ แมวแก่มีโอกาสเจ็บป่วยไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น และกลิ่นปากอาจเป็นหนึ่งในอาการที่หมอสงสัยว่าเกิดความผิดปกติขึ้นแล้วล่ะ ถ้าไม่ใช่มาจากปากก็มาจากความผิดปกติภายในร่างกายหรือทั้งสองสาเหตุ
กรณีที่แมวมีโรคประจำตัว เช่น โรคตับ โรคไตและโรคเบาหวานอยู่แล้ว กลิ่นปากที่เปลี่ยนไปหรือรุนแรงขึ้นเป็นอาการที่เจ้าของใช้สังเกตว่า โรคที่เป็นอยู่อาจจะกำเริบขึ้นมาก็ได้นะ แต่อย่าลืมสังเกตอาการอื่น ๆ เช่น ซึมลง อาเจียน ไม่กินอาหาร ปัสสาวะสีผิดปกติ ถ่ายเหลว ไม่มีแรง เป็นต้น
แมวผิวหนังอักเสบจากการแพ้ (feline eosinophilic granuloma)
แมวที่ผิวหนังอักเสบจากการแพ้สารบางอย่าง สามารถเกิดอาการผิวหนังอักเสบได้ทั่วตัว บางครั้งพบว่าแมวมีแผลผิวหนังอักเสบบริเวณริมฝีปากทำให้แมวน้ำลายไหลและมีกลิ่นปาก และบ่อยครั้งอาจเกิดจากแมวแพ้น้ำลายหมัด ดังนั้นอย่าลืมหยอดยากำจัดหมัดให้แมวอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะแมวที่เลี้ยงปล่อยนอกบ้าน
ตรวจสุขภาพช่องปากแมวง่าย ๆ ที่บ้านด้วยตัวเอง
เจ้าของแมวเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดแมวมากที่สุด การเป็นคนช่างสังเกตอาจทำให้เราพบความผิดปกติได้ตั้งแต่เริ่มต้นและบางครั้งสามารถมองเห็นอาการผิดปกติก่อนที่จะอ้าปากแมวดูด้วยซ้ำ อาการของแมวที่มีปัญหาช่องปากและฟันมีดังนี้
- แมวปากเหม็น
- แมวเหงือกอักเสบแดงและบวม
- แมวมีแผลในปาก
- แมวน้ำลายไหล
- ฟันหักหรือฟันหลุดหายไป
- มีคราบหินปูน
- แมวเกาหน้าหรือถูหน้าบ่อย ๆ
- แมวมีแผลบริเวณริมฝีปาก
- แมวตาแฉะ น้ำมูกไหล อาการคล้ายแมวเป็นหวัด
- หน้าบวม คางบวม ใต้ตาบวม หรือคลำพบก้อนผิดปกติบริเวณใบหน้าหรือลำคอ
- แมวไม่กินอาหาร