ยาถ่ายพยาธิสุนัข

สารบัญ

พยาธิที่พบในสุนัขแบ่งออกได้ 2 ชนิดคือ พยาธิภายใน และพยาธิ ภายนอก พยาธิภายใน เป็นพยาธิที่อาศัยอยู่ในร่างกายสุนัขเป็นส่วนใหญ่ซึ่ง ได้แก่ พยาธิลำไส้ เช่น พยาธิไส้เดือน พยาธิแส้ม้า พยาธิปากขอ พยาธิตัวตืด และพยาธิหนอนหัวใจซึ่งตัวอ่อนของพยาธิจะอาศัยในเส้นเลือด แต่พยาธิตัวเต็ม วัยจะอาศัยอยู่ในหัวใจ โดยเฉพาะหัวใจห้องล่างขวา ส่วนพยาธิภายนอกที่พบใน สุนัขได้บ่อยคือ ไร เห็บ และหมัด

การระบุการติดเชื้อพยาธิ

สังเกตอาการ

อาการหลายอย่างที่เกิดขึ้นจากพยาธิมักดูธรรมดาและจำแนกออกมายาก ฉะนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกถึงชนิดของพยาธิในสุนัขจากอาการเพียงอาการเดียว อย่างไรก็ตาม สัญญาณในสุนัขที่ไม่ได้ติดเชื้อพยาธิในระยะที่ผ่านมา ควรที่จะเพิ่มความสงสัยในการติดพยาธิ และเริ่มตรวจสอบประเภทของเชื้อพยาธิที่กำลังติดอยู่ในปัจจุบัน

หาพยาธิในมูลที่ถ่ายออกมา

บางครั้ง แม้ในสุนัขที่ไม่มีอาการใดๆ คุณอาจเห็นพยาธิออกมาเป็นตัวๆ ในมูลของสุนัขของคุณก็เป็นได้ ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าพยาธิตัวนี้เป็นชนิดใด ให้เก็บมันไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดเป็นเกลียว แล้วนำไปให้สัตวแพทย์ช่วยระบุชนิดของมันให้ได้

  • การจับพยาธิไว้จะช่วยได้ดีกว่าแค่อธิบายลักษณะของมันให้สัตวแพทย์ฟังมาก เพราะพยาธิส่วนใหญ่จะมีหน้าตาคล้ายกันถ้าหากมองด้วยตาเปล่า

ระบุถึงสัญญาณในระบบทางเดินทางอาหาร

แม้ว่าวงจรชีวิตจะมีความแตกต่างกัน แต่พยาธิพวกนั้นก็มีจุดหมายปลายทางที่ต้องผ่านในไส้ในพุงกันทั้งสิ้น ถ้าพยาธิมีจำนวนน้อย สุนัขก็จะไม่แสดงอาการอะไรออกมา อย่างไรก็ตาม เมื่อมีจำนวนการบุกรุกที่มากขึ้นในลำไส้ มันอาจไปทำให้เกิดการระคายเคืองในเครื่องใน ที่จะทำให้เกิดโรคอย่างอาการป่วย ท้องเสีย (บางครั้งก็อาจถ่ายเป็นเมือก และ/หรือมีเลือดติดมาด้วย) เบื่ออาหาร และน้ำหนักลด

เก็บตัวอย่างมูล

พยาธินั้นทั้งอาศัยอยู่และเดินทางผ่านอวัยวะภายใน ฉะนั้น แน่นอนว่าวงจรชีวิตของมันที่เป็นหลักฐานของการติดเชื้อพยาธิจะถูกส่งออกมาภายในมูลของสุนัข ในกรณีที่เกิดการติดเชื้ออย่างหนัก คุณอาจเห็นพยาธิในมูลเลย แต่จะไม่ค่อยเห็นถ้าการติดเชื้อไม่หนักเท่าไร หรือแทนที่จะเป็นอย่างนั้น ไข่หรือตัวอ่อนอาจออกมากับมูลสุนัขแทน ซึ่งยากที่จะสังเกตด้วยตาเปล่า

  • ตักตัวอย่างของมูลด้วยไม้ไอศกรีมหรือช้อนที่ใช้แล้วทิ้ง จากนั้นนำใส่ภาชนะสะอาดที่ปิดฝาเกลียวได้ ซึ่งมีฝาที่พอดีและแน่นพอ (สัตวแพทย์อาจให้ภาชนะเฉพาะทางมา ถ้าหากว่าคุณไม่มีภาชนะที่เหมาะสม)
  • เก็บตัวอย่างเอาไว้ในอุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส และนำไปให้คลินิกรักษาสัตว์ที่คุณสามารถไปได้ (ตัวอย่างมูลไม่จำเป็นต้องสดในการจำแนกชนิดของพยาธิ)
  • ถ้าสัตวแพทย์ขอตัวอย่างเป็นจำนวนมาก ให้เก็บตัวอย่างจากมูลสุนัขทุกวันอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 3 วัน แล้วเก็บเอาไว้ในภาชนะชนิดเดียวกัน ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นถ้าหากสงสัยถึงผลลัพธ์ เนื่องจากบางครั้งแม้จะมีพยาธิอยู่จริง แต่การตรวจครั้งแรกอาจกลับให้ผลเป็นลบ (False Negative) ตัวอย่างจำนวนมากจะลดความเสี่ยงถึงผลลัพธ์ที่ไม่สมเหตุสมผลได้
  • สัตวแพทย์อาจวิเคราะห์มูลของสุนัข ซึ่งรวมถึงการขยายดูส่วนของมูลด้วยกล้องจุลทรรศน์เพื่อหาไข่หรือตัวอ่อนของพยาธิ หรืออาจส่งไปยังแล็บเพื่อการประเมินก็เป็นได้

ขอให้สัตวแพทย์ที่ดูแลสุนัขของคุณทำการตรวจด้วยเลือด

พยาธิบางชนิดอาจเป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยที่ไม่ใช่เบาๆ อย่างพยาธิหอยโข่ง หรือพยาธิหนอนหัวใจ ซึ่งสามารถวินิจฉัยได้โดยการตรวจเลือด สัตวแพทย์จะใช้เลือดปริมารณเล็กน้อย (1-2 มิลลิลิตร) ในการนำไปใช้เป็นตัวอย่างในการตรวจสอบ

  • การตรวจสอบหลายๆ แบบก็มักได้ผล แต่การทดสอบด้วยเทคนิค ELISA (ตรวจหาแอนติบอดีจำเพาะ) จะได้รับความนิยมมากที่สุด การตรวจนี้จะหาการมีอยู่ของแอนติบอดีของพยาธิหนอนหัวใจ และจะเปลี่ยนสีหากว่าผลเป็นบวก
  • สัตวแพทย์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่เกิดการติดเชื้อจากพยาธิหนอนหัวใจ จำเป็นที่จะต้องตรวจโรคให้สุนัขประจำปี เหมือนกับการตรวจกายภาพของสุนัขก่อนที่จะต่ออายุหรือสั่งยารายเดือนในการรักษา

หลีกเลี่ยงการสัมผัสมูลและตัวพยาธิ

พยาธิบางชนิด เช่น พยาธิตัวกลม สามารถติดจากสุนัขสู่มนุษย์ได้ เด็กเล็กที่ติดเชื้อพยาธิตัวกลม อาจเกิดความเสียหายกับการมองเห็นได้

  • พยาธิหรือมูลที่ติดเชื้อพยาธิ ควรถูกกำจัดออกจากบริเวณที่เด็กชอบเล่น
  • มูลที่ติดเชื้อพยาธิต้องถูกเก็บด้วยถุงมือ
  • ล้างมือทุกครั้งด้วยสบู่และน้ำ หลังจากที่แตะต้องมูลสัตว์

รู้ถึงปัจจัยความเสี่ยงของพยาธิแต่ละชนิด

เพราะพยาธิอาจดูคล้ายกันมาก วิธีหนึ่งที่ดีในการช่วยจำแนกประเภทของพยาธิที่ทำให้สุนัขของคุณเป็นโรคนั้น คือการเข้าใจปัจจัยตามธรรมชาติหรือสถานการณ์ว่าส่วนใหญ่แล้วปัจจัยเหล่านั้นจะชี้ให้เห็นว่าเป็นพยาธิชนิดใด

  • พยาธิตัวกลมมักจะติดสู่ลูกสุนัขด้วยเชื้อพยาธิตัวกลมจากแม่สุนัข เพราะไข่และตัวอ่อนจะผ่านจากรกแล้วติดเชื้อในลูกสุนัขในครรภ์ และไข่ของมันก็จะถูกขับออกมาผ่านน้ำนมของแม่อีกเช่นกัน ซึ่งลูกสุนัขอาจติดเชื้อพยาธิเป็นประจำอยู่แล้ว
  • พยาธิตัวตืดอาจมาจากที่สุนัขกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมที่ติดเชื้อพยาธิตัวตืดอยู่แล้ว หรืออาจติดจากหมัดที่มีไข่พยาธิตัวตืดติดมาด้วย ฉะนั้น สุนัขนักล่าหรือสุนัขที่มีหมัดติดอยู่ ก็อาจมีพยาธิตัวตืดอยู่ด้วย
  • พยาธิปากขอ และพยาธิแส้ม้าจะเจริญเติบโตในดินชื้นๆ และสุนัขก็มักจะเสี่ยงจากการที่มันไปคลุกคลีกับหญ้า โดยเฉพาะในสภาพที่อุ่นๆ ชื้นๆ การติดเชื้อพยาธิเหล่านี้มักเกิดขึ้นในสุนัขเลี้ยงที่มักจะได้ออกไปเล่นกับดินกับหญ้า
  • พยาธิหนอนหัวใจ จะแพร่กระจายตามแมลง อย่างเช่นยุง และพื้นที่ที่แมลงอยู่มาก พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงก็ได้แก่ อเมริกาตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลางจนไปถึงตามแนวชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก
  • พยาธิหอยโข่ง (พยาธิในปอด) มักจะเป็นที่แพร่หลายผ่านทางมูลของสุนัขจิ้งจอก ทาก และหอยทาก หากได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ ก็ถือว่าเสี่ยงในการติดเชื้อพยาธิแล้ว
พยาธิสุนัข

การจำแนกชนิดของพยาธิ

บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอาการหรือปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับสุนัขของคุณ

บางครั้งทางที่ดีที่สุดในการบอกถึงชนิดของพยาธิ คือการบันทึกข้อมูลปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้น ให้จดถึงสภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ และนิสัยของสุนัข โดยให้แน่ใจว่าได้บันทึกข้อมูลถึงความรุนแรงและช่วงเวลาของโรคและให้ข้อมูลกับสัตวแพทย์ของคุณ ถ้าหากว่าสงสัยว่าเกิดอาการติดเชื้อใดๆ

หาจุดเด่นในแต่ละชนิดของพยาธิ

ถ้าพยาธิหรือส่วนของพยาธิถูกพบได้ในมูลหรืออาเจียนของสุนัข ก็อาจสามารถแยกชนิดของมันได้ ขณะที่พยาธิหลายๆ ชนิดมีหน้าตาที่เหมือนกัน แต่มันก็มีลักษณะเด่นที่อาจทำให้คุณชี้ถึงประเภทของมันได้

  • พยาธิตัวกลมจะดูคล้ายกับเส้นสปาเกตตี้สุก มักจะยาวประมาณ 8-10 ซม. แต่ก็สามารถยาวได้ถึง 18 ซม.เลยทีเดียว มันจะดูตัวกลมๆ และลื่นๆ เรียบๆ
  • พยาธิตัวตืดจะมีจุดเด่นที่ร่างกายแบนๆ แยกเป็นส่วนๆ ความยาวจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แต่จะอยู่ที่ประมาณ 50 ซม. (19.7 นิ้ว) ถึง 250 ซม. ถ้าหากว่าคุณพบพยาธิตัวตืดในมูลหรืออาเจียน เหมือนว่ามันจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งของตัวมัน ไม่ใช่ทั้งตัว
  • พยาธิปากขอและพยาธิแส้ม้าจะมีขนาดตัวที่เล็กกว่าพยาธิตัวกลมหรือพยาธิตัวตืดมาก มันมักจะมีความยาวประมาณ 0.5-2 ซม. และตัวบางมากๆ เหมือนเส้นผมหรือเส้นด้าย ความที่มันตัวเล็ก อาจทำให้มันโปร่งแสง และมองหายากถ้าหากว่าไม่ได้ขยายดูดีๆ

สังเกตสัญญาณการหายใจหรือการเต้นของหัวใจ

พยาธิหอยโข่งและพยาธิหนอนหัวใจจะเข้าไปอยู่ในเส้นเลือด รวมถึงหัวใจหรือปอดด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการไอ หายใจหอบ หายใจเร็ว เหนื่อยง่าย หรือแม้กระทั่งหน้ามืดเป็นลม และเสียชีวิตได้เลย

  • พยาธิหอยโข่งและพยาธิหนอนหัวใจ สามารถเข้าไปแทรกแซงในลิ่มเลือด และทำให้สุนัขบางตัวเกิดอาการที่ส่งเตือน อย่างการที่เลือดไม่หยุดไหลแม้จะมีบาดแผลเพียงเล็กน้อย
  • เมื่อเกิดสัญญาณเหล่านี้ ควรเตรียมตัวและรีบนำส่งสัตวแพทย์อย่างรวดเร็ว การรักษาอาจต้องใช้เงินมากหน่อย แต่การรักษาที่รวดเร็วก็จะยิ่งทำให้ผลออกมาดี

ตรวจสอบแผงไข่พยาธิ

สัญญาณที่ชี้ชัดว่ามีการติดเชื้อของพยาธิตัวตืดอยู่ คือไข่ของพยาธิที่เป็นแผงติดอยู่ที่ขนใกล้ๆ รูทวารของสุนัข มันจะเกิดขึ้นได้เมื่อพยาธิตัวตืดที่โตเต็มวัยวางไข่ไว้ในช่องลำไส้ หลังจากนั้นไข่ก็จะดิ้นออกจากรูทวารของสุนัข ที่จะทำให้มันคันบริเวณรอบๆ รูทวารได้

  • แผงไข่เหล่านี้จะดูคล้ายกับเมล็ดงาหรือข้าวเมล็ดเล็กๆ ที่จะติดอยู่ที่ขนบริเวณใกล้ๆ กับบั้นท้ายของสุนัข
  • ถ้าหากว่าสังเกตดีๆ ก็อาจเห็นวัตถุที่คล้ายๆ เมล็ดพืชสีครีมๆ เล็กๆ กำลังดิ้นไปมาอยู่ก็เป็นได้

ตรวจกายภาพของสุนัข

เพราะพยาธิ โดยเฉพาะพยาธิตัวตืด จะดูดซึมสารอาหารจากอาหารสุนัข และทำให้สุนัขได้รับสารอาหารน้อยลง สุนัขที่ติดเชื้อพยาธิอาจมีไขมันที่หุ้มกระดูกน้อย แต่กลับลงพุง เนื่องจากมีพยาธิที่ลำไส้มากเกินไป ลักษณะที่เห็นในลูกสุนัขที่มีพยาธิทั่วไปก็คือ เห็นกระดูกและซี่โครงชัด แต่มีพุง และขนมีสีหม่น

นำตัวอย่างไข่พยาธิไปให้สัตวแพทย์

ทางที่ดีที่สุดในการจำแนกประเภทของพยาธิ คือการให้ผู้เชี่ยวชาญจำแนกให้ สัตวแพทย์สามารถขยายพยาธิหรือไข่ของมันด้วยกล้องจุลทรรศน์ และมีประสบการณ์ในการจำแนกความแตกต่างระหว่างพยาธิแต่ละชนิดได้ในเวลาไม่ถึงนาที

  • ไข่ของพยาธินั้นมีความแตกต่างที่มองออกยาก อย่างเช่นไข่ที่มีลักษณะรีแทนที่จะกลม หรือมีจุกอยู่ที่ด้านใดด้านหนึ่ง หรือทั้งสองด้านของไข่

การป้องกันและวิธีรักษาการติดเชื้อจากพยาธิ

ระบุชนิดและรักษาพยาธิทันที

การติดเชื้อจากพยาธิมีแนวโน้มที่จะแย่ลงถ้าหากว่าปล่อยไว้ไม่ยอมพาไปรักษา การติดเชื้อที่มีพยาธิโตเต็มวัยจำนวนมาก อย่างที่รู้กันว่าเป็นการติดเชื้อที่“สาหัส” นั้น จะส่งผลตรงข้ามกับการที่สุนัขมีสุขภาพที่ดีทั้งหมด ฉะนั้นการระบุชนิดของพยาธิก่อนที่การติดเชื้อจะเข้าขั้น“สาหัส” ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด

  • การติดเชื้อพยาธิในสุนัขอาจเป็นสาเหตุที่ของอาการป่วยทางระบบทางเดินอาหาร อย่างอาการท้องเสียได้
  • การติดเชื้อพยาธิบางชนิดอาจส่งผลให้สุนัขเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะพยาธิหนอนหัวใจหรือพยาธิหอยโข่ง

จัดการป้องกันพยาธิหนอนหัวใจเป็นประจำทุกเดือน

โดยเฉพาะถ้าหากว่าคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง มียุงมาก คุณควรพาสุนัขไปทำการป้องกันไม่ให้ติดเชื้อพยาธิหนอนหัวใจ การป้องกันพยาธิหนอนหัวใจจำเป็นจะต้องสั่งยาโดยแพทย์

  • สัตวแพทย์ส่วนใหญ่จะทดสอบการติดเชื้อพยาธิหนอนหัวใจเป็นลบ เพื่อที่จะเขียนใบสั่งยา
  • ยาที่ใช้การป้องกันการเกิดพยาธิหนอนหัวใจจะมีรสเนื้อ และสามารถเคี้ยวได้ ทำให้ง่ายต่อการกินยา

กำจัดเห็บหมัดให้สุนัข

เพราะพยาธิบางตัวอาจติดมากับหมัดได้ การกำจัดหมัดด้วยวิธีกำจัดหมัดแบบปกติ ก็จะช่วยให้สุนัขไม่ติดเชื้อพยาธิได้แล้ว

  • บางบริษัทก็ทำยาที่รักษาทั้งพยาธิหนอนหัวใจและหมัดออกมาเป็นยาที่สามารถเคี้ยวกินได้ใน 1 เม็ดเช่นกัน
  • และก็มีที่สามารถจัดการหมัดเฉพาะที่ทุกๆ เดือน โดยใช้บีบลงบนต้นคอของสุนัข คือหลังคอของมันนั่นเอง

หลีกเลี่ยงไม่ให้สุนัขของคุณไปคลุกคลีกับสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง 

ให้แน่ใจว่าสุนัขของคุณได้อยู่ห่างจากที่ที่ทำให้พยาธิเติบโตได้ดี เพื่อจะได้ไม่ต้องมาถ่ายพยาธิทีหลัง

  • ดูให้สุนัขของคุณอยู่ห่างจากบริเวณที่เต็มไปด้วยหญ้า ที่มีอากาศอุ่นๆ กับสุนัขตัวอื่นที่ยังไม่ถ่ายพยาธิ
  • อย่าปล่อยให้สุนัขของคุณไปยุ่งกับสัตว์ป่าหรือสัตว์เร่ร่อน
  • หลีกเลี่ยงภูมิอากาศที่อุ่นชื้น ซึ่งมีจำนวนของแมลงอย่างหมัดหรือยุงมากๆ
  • อย่าปล่อยให้สุนัขของคุณกินหรือถูตัวกับมูลของสุนัขตัวอื่นหรือสัตว์ป่า

ทำการถ่ายพยาธิหากจำเป็น

ถ้าสุนัขติดเชื้อพยาธิแล้ว คุณต้องถ่ายพยาธิให้มัน หลักเกณฑ์ความแม่นยำนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยความเสี่ยงของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว และวิธีที่ดีที่สุดคือการปรึกษากับสัตวแพทย์

  • ยาถ่ายพยาธิส่วนใหญ่จะเป็นผงเอาไว้ผสมกับอาหารของสุนัขหรืออาหารชนิดอื่นๆ อย่างโยเกิร์ตรสธรรมชาติ (โดยต้องปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนที่จะให้อาหารสำหรับมนุษย์)
  • ยาถ่ายพยาธิส่วนใหญ่มักจะใช้แค่ครั้งเดียวจบ แต่ถ้าสัตวแพทย์สั่งยาในกลุ่ม Fenbendazole ก็ต้องให้มันหลายครั้งตามชุดยาเป็นเวลาหลายวัน ยากลุ่ม Fenbendazole นั้น เป็นยาถ่ายพยาธิที่มีความอ่อนโยนมาก ซึ่งเอาไว้ใช้กับลูกสุนัข
  • อ่านฉลากยาถ่ายพยาธิให้เข้าใจ แล้วปรึกษากับสัตวแพทย์ก่อนจะให้ยาสุนัขของคุณ

พาไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำ

การให้สุนัขได้ตรวจร่างกายกับสัตวแพทย์เป็นประจำ จะทำให้มันมีสุขภาพที่ดีเป็นปกติ สัตวแพทย์จะมีโอกาสในการตรวจปัญหาก่อนที่มันจะบานปลายและเกิดผลร้ายแรงกับสุนัขของคุณได้

เคล็ดลับ

  • เก็บมูลของสุนัขด้วย ถ้าหากว่าคุณพามันไปเดินเล่น
  • จำเป็นต้องควบคุมจำนวนหมัดทุกๆ ช่วงเวลาในหนึ่งปี
  • อย่าปล่อยให้สุนัขของคุณไปดมหรือกินมูลและดินฝุ่นอื่นๆ โดยมักเกิดขึ้นกับลูกสุนัข ซึ่งเป็นวิธีที่เหล่าปรสิตจะติดต่อเข้ามาได้อย่างแน่นอน

คำเตือน

  • พยาธิตัวกลมและพยาธิปากขอสามารถติดต่อจากสุนัขไปสู่มนุษย์ได้ ฉะนั้นควรระวังให้ดี และรู้วิธีการจัดการกับมูลของสุนัขอย่างเหมาะสม ให้พบแพทย์ถ้าหากว่าคุณคิดว่าตัวเองหรือใครสักคนในบ้านติดเชื้อพยาธิมา
  • พยาธิหนอนหัวใจจะทำให้สุนัขของคุณหัวใจวายได้ ถ้าหากว่าไม่หาแล้วรักษาให้ทันเวลา
  • ถ้าติดเชื้อพยาธิแล้วปล่อยไว้ไม่รักษานานเกินไป อาการติดเชื้ออาจเป็นสาเหตุของความตายได้
  • ถ้าสุนัขของคุณเกิดอาการเหนื่อยล้า หรือท้องเสียพร้อมอาเจียน ให้รีบนำไปพบแพทย์ทันที
เห็บ

บทความน่าสนใจ เลี้ยงหมาให้สุขภาพดีและประหยัดเงิน

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://th.wikihow.com

https://vet.kku.ac.th